ป.ป.ช.ฮึ่ม จับตาโครงการรัฐเกิน 500 ล้านบาท โครงการขนาดใหญ่ เฝ้าระวังทุจริตเชิงนโยบาย–จัดซื้อจัดจ้างไม่โปร่งใส ทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2568 นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า จากการสำรวจติดตามและประเมินสถานการณ์การทุจริตของประเทศไทยในปัจจุบัน ภาพรวมการใช้จ่ายเงินงบประมาณ สถิติการตรวจรับคำกล่าวหาเจ้าพนักงานของรัฐที่สำนักงาน ป.ป.ช. รับไว้ดำเนินการ
รวมทั้งประเด็นการทุจริตที่เกิดขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์ จะเห็นได้ว่าสถานการณ์การทุจริตยังคงมีแนวโน้มความรุนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. จึงกำหนดให้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เป็นปีที่มุ่งเน้นการจับตาเฝ้าระวังการทุจริตในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐที่มีวงเงินงบประมาณของโครงการตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป รวมถึงโครงการขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบในภาพรวมระดับประเทศ ทั้งในรูปแบบการทุจริตเชิงนโยบาย การออกนโยบายที่เอื้อกลุ่มทุนขนาดใหญ่ การจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่เป็นธรรม การแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือการใช้เงินเพื่อสนับสนุนโครงการที่ไม่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น
หากปรากฏปัจจัยที่บ่งชี้ว่า จะมีการทุจริตเกิดขึ้น สำนักงาน ป.ป.ช. จะเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปขยายผลตามหน้าที่และอำนาจต่อไปในทันที พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานตรวจสอบ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการลงพื้นที่ติดตามเฝ้าระวังการทุจริตอย่างใกล้ชิด
ตลอดจนมีข้อสั่งการเน้นย้ำให้สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 – 9 และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดทั่วประเทศ ออกปฏิบัติการเชิงรุกในการติดตามและเฝ้าระวังการทุจริตโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐในระดับพื้นที่ที่มีวงเงินงบประมาณของโครงการตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
สำนักงาน ป.ป.ช. ตั้งเป้าหมายการประสานความร่วมมือจับตาเฝ้าระวังการทุจริตในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐในครั้งนี้ จะทำให้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นไปอย่างเข้มข้น เป็นระบบ และตัดวงจรการทุจริตได้ก่อนที่ความเสียหายจะเกิดขึ้นแก่ประเทศ และลดการสูญเสียโอกาสในการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศด้วย