3 ชาติเดือด ‘กัมพูชา’ ลุยเอาเรื่อง ‘สแกมเชือดหมู’
GH News October 18, 2025 08:40 PM

ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ยังตึงเครียด อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ในระดับนานาชาติของกัมพูชามีปัญหามากขึ้นเรื่อย ๆ

ล่าสุด เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐเสนอข่าว อัยการสหรัฐดำเนินคดีกับเฉิน จื้อ (Chen Zhi) หรือ “Vincent” อายุ 37 ปี สัญชาติอังกฤษและกัมพูชา ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท Prince Holding Group (Prince Group) ธุรกิจข้ามชาติขนาดใหญ่ในกัมพูชา ในข้อหาคบคิดฉ้อโกงทางอิเล็กทรอนิกส์และฟอกเงิน บังคับใช้แรงงานบุคคล หลอกลวงให้ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล เรียกว่า กลโกง เชือดหมู (Pig Butchering) ซึ่งโกงเงินหลายพันล้านเหรียญจากผู้เสียหายในสหรัฐ และทั่วโลก

อัยการเขตนิวยอร์กตะวันออก และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ยื่นคำร้องทางแพ่งเพื่อริบทรัพย์ 127,271 บิตคอยน์ มูลค่า15,000 ล้านเหรียญ ที่ได้มาและเป็นเครื่องมือในการฉ้อโกงและฟอกเงิน

ขณะนี้เงินทุนเหล่านั้น (สกุลเงินดิจิทัลของจำเลย) อยู่ในความดูแลของรัฐบาลสหรัฐ เป็นการริบทรัพย์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ

จำเลยเป็นผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท Prince Group ในกัมพูชาที่ดำเนินธุรกิจหลายสิบแห่งในกว่า 30 ประเทศ โดยอ้างว่าทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และบริการสำหรับผู้บริโภค

แต่โดยลับ ๆ เฉิน จื้อ และผู้บริหารระดับสูง ทำให้ Prince Group เป็นหนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย สร้างผลกำไรมหาศาลจากการหลอกลวงดังกล่าว

สหรัฐและสหราชอาณาจักรชี้ด้วยว่า เฉิน จื้อ และพวกพ้อง ได้ใช้ศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา เมียนมา และลาว บังคับให้เหยื่อทำงานภายใต้แก๊งที่เรียกว่า สแกมเชือดหมู การหลอกลงทุนผ่านความสัมพันธ์ปลอมออนไลน์ ชวนเหยื่อให้ลงทุนในแพลตฟอร์มคริปโตที่ไม่มีจริง ควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ติดอาวุธ มีการทำร้าย ขายต่อ และค้ามนุษย์อย่างเป็นระบบ เหยื่อของเครือข่ายนี้มาจากเอเชีย แอฟริกา ละตินอเมริกา และนักลงทุนทั่วโลกที่ถูกฉ้อโกง

ยังมีข่าวอีกด้วยว่า สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐ (OFAC) คว่ำบาตรบุคคลและนิติบุคคล 146 ราย ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย Prince Group

และมีชื่อของกลุ่มธุรกิจใหญ่ในกัมพูชาที่เชื่อมโยงกับเครือญาติผู้นำกัมพูชามีบทบาทในการฟอกเงินเกี่ยวข้องด้วย

นอกจากสหรัฐกับอังกฤษแล้ว ยังเกิดเรื่องใหญ่ เมื่อเกาหลีใต้แสดงความไม่พอใจกัมพูชา จากกรณีมีนักศึกษาเกาหลีใต้โดนลวงไปกัมพูชา แล้วเสียชีวิต

รวมถึงมีข่าวว่า พลเมืองเกาหลีใต้ 80 คน ถูกหลอกไปบังคับทำงานและกักขังไว้ โดยทางเกาหลีใต้ตอบโต้เรื่องนี้อย่างรุนแรง เรียกทูตกัมพูชาเข้าพบ ส่งทีมตอบโต้ (Interagency Team) ไปยังกัมพูชา ตลอดจนประกาศ “ห้ามเดินทาง” (Travel Ban) ไปยังบางพื้นที่ในกัมพูชา (เช่น บริเวณ Bokor, Poipet, Bavet) ที่เชื่อว่าเป็นจุดเสี่ยงของการหลอกลวงและการกักขังประชาชนเกาหลีใต้

การเปิดโปงเหล่านี้ ทำให้ผู้นำกัมพูชาและครอบครัวที่ผูกขาดอำนาจ ใช้อำนาจตามอำเภอใจ ลดความชอบธรรมลงไปอีก

เพื่อนบ้านอย่างไทย ต้องจับตาตั้งรับให้ดี

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.