ศึกแดง “โคตร” เดือด!! “หงส์แดง” เปิดบ้านรับ “ผีแดง” เกมแห่งศักดิ์ศรีที่เดิมพันมากกว่าผลแพ้ชนะ
GH News October 19, 2025 02:11 PM
ปรีวิวศึกแดงเดือด "ลิเวอร์พูล" เตรียมเปิดบ้านปะทะ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ในนัดที่ 100 ของการเจอกัน กับเกมแห่งศักดิ์ศรีที่เดิมพันมากกว่าผลแพ้ชนะ

หลังเกมทีมชาติ พรีเมียร์ลีก กลับมาแบบสุดเร้าใจ ด้วยเกมที่แฟนบอลทุกคนรอคอยอย่าง “ศึกวันแดงเดือด” ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่แอนฟิลด์ ในวันอาทิตย์ที่ 19 ต.ค. 68

รอบนี้ถือเป็น “แดงเดือด” ที่ต่างจากหลายครั้งที่ผ่านมา เพราะทีมที่ถูกมองว่าเหนือกว่าอย่าง “หงส์แดง” กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ แพ้มา 3 นัดติดต่อกัน

ต่างจากผู้มาเยือน ที่ถูกมองว่าเป็นรองอย่าง “ผีแดง” ซึ่งฟอร์มกำลังเข้าฝัก ทั้งรูปแบบการเล่น และผลการแข่งขัน ดูดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะยังไม่คงเส้นคงวามากนักก็ตาม

“ศึกแดงเดือด” ที่พิเศษอยู่แล้ว มารอบนี้ จึงน่าสนใจ และพิเศษมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ นี่คือเกมแดงเดือดระหว่าง “หงส์-ผี” ที่แอนฟิลด์ นัดที่ 100 พอดีด้วย

ดังนั้น เกมเจอกับคู่อริตลอดกาลในบ้านเป็นนัดที่ 100 ถ้าหาก ลิเวอร์พูล ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ และทำได้แค่เสมอหรือกระทั่งแพ้ สถานการณ์ของ อาร์เนอ ชล็อต ที่กดดันอยู่แล้ว จะกดดันหนักหนาวงขึ้นอีกหลายเท่า

ขณะที่ รูเบน อโมริม ก็ใช่ว่าจะดีกว่าสักเท่าไหร่ เพราะถ้าหากบุกมาแพ้ จากอะไรที่ว่าเริ่มดูดี อาจพังทลาย ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ และอย่าลืมว่า มีกุนซือผีแดงหลายคน ที่ถูกปลดหลังแดงเดือด

นี่จึงน่าจะเป็นแดงเดือด ที่เดือดจริงๆที่สุดนัดหนึ่ง เพราะผลการแข่งขันที่จะออกมา มีผลต่ออนาคตในฤดูกาลนี้ของทั้ง 2 ทีมมากเหลือเกิน

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล – แมนฯ ยูไนเต็ด
วันที่: อาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2568
เวลา: 22.30 น.
สนาม: แอนฟิลด์
ถ่ายทอดสด: MONOMAX, AISPLAY

– ลิเวอร์พูล –
“หงส์แดง” ฟอร์มแย่หนักก่อนเบรกทีมชาติ แพ้มา 3 เกมรวดในทุกรายการ ในลีกเกมล่าสุด บุกไปพ่าย เชลซี 1-2 ทำให้ตกจากจ่าฝูงลงมาอยู่ที่ 2 เตะ 7 นัด มี 15 คะแนน ตามหลัง อาร์เซนอล 1 คะแนน แถมเกมนี้ อาร์เนอ ชล็อต มีปัญหา เมื่อต้องเช็กความฟิต อิบราฮิมา โกนาเต และ ไรอัน กราเฟนแบร์ก 2 ตัวหลัก ที่เจ็บ รวมถึง วาตารุ เอ็นโด แต่ อลิสซอน เบคเกอร์ และโจวานนี เลโอนี ยังไม่พร้อม

การจัดทัพใช้ จอร์จี มามาร์ดาชวิลี ลงเฝ้าเสา ส่วนแดนหลัง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ โจ โกเมซ โดยมี คอนนอร์ แบรดลีย์ กับ มิลอส เคอร์เคซ เป็นแบ๊กขวา-ซ้าย แดนกลาง คาดว่า กราเฟนแบร์ก น่าจะผ่านฟิตลงเล่นได้ ประจำการร่วมกับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โดมินิค โซโบซไล โดยมี โม ซาลาห์, โคดี กัคโป และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค เป็น 3 ประสานเกมรุก

– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด –
“ผีแดง” คืนฟอร์มเก่งก่อนเบรกทีมชาติ ล่าสุด เปิดรังอัด ซันเดอร์แลนด์ 2-0 ทำให้เตะ 7 นัด ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 เกม มี 10 คะแนน อยู่ที่ 10 แต่ถ้าเกมนี้ชนะ จะไล่ตามหลัง ลิเวอร์พูล เหลือแค่ 2 คะแนน และ รูเบน อโมริม มีข่าวดี เมื่อไม่มีนักเตะเจ็บเพิ่มจากเกมทีมชาติ แถมอาจจะได้ นุสแซร์ มาสราอุย กลับมาสู่ทีม หลังเจ้าตัวกลับไปช่วยทีมชาติโมร็อกโกได้ แต่ก็ต้องเช็กความฟิตก่อนเกมอีกครั้ง ส่วน ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยังไม่พร้อม แม้อาการจะดีขึ้นมากแล้ว

อโมริม จัดทัพใหญ่ลงสู้ โดยยึดระบบหลัง 3 คนเหมือนเดิม ผู้รักษาประตูยังใช้ เซนเน ลัมเมนส์ ที่เกมก่อนผลงานดี ลงเล่นต่อไป แดนหลังมี มาไธส์ เดอ ลิกต์, เลนนี โยโร และ ลุค ชอว์ โดยมี อาหมัด ดิยัลโล กับ พาทริค ดอร์กู เป็นวิงแบ๊ก 2 ข้าง แดนกลางใส่ มานูเอล อูกาเต กับ บรูโน แฟร์นันด์ส ทำเกม แล้ววาง มาเธอุส คุนญา กับ ไบรอัน เอ็มเบอโม ทำเกมรุกอยู่หลัง เบนจามิน เชสโก หอกเป้า

– ความน่าจะเป็นของเกม –
รูเบน อโมริม พาผีแดงบุกมาไล่ตามตีเสมอหงส์แดง 2-2 ในนัดล่าสุดที่แอนฟิลด์ และวางหมากสู้กับเจ้าถิ่นได้สูสี มารอบนี้ จึงน่าจะมีแผนรับมือเป็นอย่างดี ยิ่งมีแผงแนวรุกชุดใหม่ ที่เริ่มลงตัว และอันตรายขึ้น จึงจะสู้ได้อย่างไม่เป็นรองมากนัก แม้ว่าคงต้องตั้งรับเป็นหลักแล้วรอจังหวะโต้กลับก็ตาม ดังนั้น ถ้าหากจะหวังมีแต้ม เกมรับต้องเหนียวแน่นเป็นพิเศษ และเกมรุกก็ต้องใช้โอกาสไม่เปลือง ส่วนแดนกลางก็ต้องช่วยกันไล่บี้ไม่มีหมด

ส่วน ลิเวอร์พูล ต้องดูว่า ชล็อต จะปลุกให้ลูกทีมกลับมากระหาย และใส่กันเดือดเหมือนฤดูกาลที่แล้วได้หรือไม่ เพราะนั่นคือสิ่งที่หงส์แดงขาดไปในช่วงหลัง ยิ่งทีมมีการเปลี่ยนแปลงเยอะในแทบทุกตำแหน่ง ทำให้ต้องใช้เวลาในการปรับจูน เกมนี้จึงเจอศึกหนักแน่ ถ้าหากไม่เนี้ยบจริงๆ โอกาสเก็บ 3 แต้มยาก แต่เล่นในบ้าน อย่างน้อยก็มีศักดิ์ศรีค้ำคอ เจอคู่แค้นตลอดกาล คงยอมไม่ได้เด็ดขาด และคงช่วยกันวิ่งลืมตาย ดูแล้ว สุดท้ายคู่นี้จึงมีโอกาสเสมอสูง

– ผลที่คาด –
ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-2

ภาพ GETTYIMAGES

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.