พิพัฒน์ เล็งถกคลัง 29 ต.ค.นี้ ดันรถไฟฟ้า 40 บาท ให้คำมั่นต้องทันก่อนยุบสภา
GH News October 25, 2025 08:20 AM

พิพัฒน์ เล็งถกคลัง 29 ต.ค.นี้ ดันรถไฟฟ้า 40 บาท ให้คำมั่นต้องทันก่อนยุบสภา

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่เสนอให้คิดค่าโดยสารรถไฟฟ้าเริ่มต้นตามจริงและสูงสุดไม่เกิน 40 บาท รวมส่วนต่อขยายต่างๆ จากเดิมราคาสูงสุดอยู่ที่ 62 บาทต่อเที่ยวนั้น ตามความตั้งใจคือต้องการให้ประชาชนจ่ายสูงสุดไม่เกิน 40 บาท แต่จะนับเป็นต่อเที่ยวอย่างไร ต้องรอรายละเอียดจากการหารือในที่ประชุมอีกครั้ง โดยจะมีการประชุมร่วมกันในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง ทั้งในฐานะรัฐมนตรี และฐานะของรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการหารือร่วมกันเพื่อให้มีรายละเอียดหรือแผนงานออกมาหลังจากนั้น โดยพยายามจะทำออกมาให้ทันภายในการทำงานของรัฐบาล 4 เดือนนี้ หรือช่วงภายในเดือนมกราคม 2569 ก่อนยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องกำหนดราคาสูงสุดของรถไฟฟ้าที่ 40 บาท ไม่ใช่ 20 บาท ตามนโยบายพรรคการเมืองอื่นนั้น เนื่องจากพิจารณาในด้านงบประมาณเบื้องต้นแล้วพบว่า สามารถทำได้มากกว่าในแบบที่ไม่ต้องใช้งบประมาณอุดหนุน โดยในแนวทางมองว่าจะดำเนินการผ่านการซื้อคืน แต่ต้องไม่ให้กระทบกับกรอบหนี้สาธารณะของประเทศที่กำหนดไว้ 70% เป็นการซื้อคืนจากเอกชนแบบ 100% ลักษณะคือ รัฐบาลซื้อคืนจากเอกชนผู้บริหารรถไฟฟ้า ทำสัญญาการให้สัมปทานกับเอกชนบริหารงานต่อ ซึ่งเอกชนจะต้องเป็นผู้กู้เงินมาเพื่อชดเชยกับสัญญาสัมปทานที่จะได้รับ โดยหากทำแบบนี้จะไม่กระทบกับงบประมาณและกรอบหนี้สาธารณะ เป็นการให้สัมปทานกับเอกชนรายเดิมที่ซื้อคืนกลับมา เพื่อให้รัฐบาลมีความสามารถในการกำหนดราคากลางได้ เพราะเป็นของรัฐบาล แต่ให้เอกชนบริหารตามสัมปทานที่กำหนดไว้

“รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ยังต้องหารือกันในการประชุมวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นการประชุมกันครั้งแรก จากนั้นจะต้องมีรูปแบบเบื้องต้นออกมา โดยแนวคิดนี้ได้หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งนายกฯ ไม่ได้ขัดข้องกับแนวทางดังกล่าว แต่เป็นการบ้านให้กระทรวงการคลังนำไปหาแนวทางดำเนินการที่ชัดเจนก่อน” นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นการซื้อคืนจะต้องซื้อรถไฟฟ้าทุกสายมาเป็นของรัฐบาลก่อน ยกเว้นสายที่เป็นของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพราะเป็นของรัฐบาลอยู่แล้ว โดยการซื้อคืนจากเอกชนนั้น จะกำหนดราคาซื้อคืนไว้พร้อมสัญญาสัมปทาน จากนั้นให้เอกชนเป็นผู้กู้เงินมาให้รัฐบาลแลกกับสัมปทานที่จะได้รับ เท่ากับเอกชนจะต้องเป็นหนี้แทนรัฐบาล แต่ได้สัมปทานรถไฟฟ้าไปบริหารต่อ ส่วนสัญญาสัมปทานควรจะกำหนดที่กี่ปี ก็ต้องมาคุยกัน ซึ่งรัฐบาลจะต้องไม่เสียเปรียบมาก และเอกชนก็ต้องไม่ขาดทุนเช่นกัน ไม่อย่างนั้นจะมีเอกชนรายใดรับเงื่อนไขนี้

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.