ไฟเขียว กมธ.ศึกษาเอ็มโอยู วุฒิสภา ขยายเวลาทำงาน ชี้ MOU43 เสี่ยงขัด รธน.-กม.ในประเทศ
GH News October 27, 2025 03:10 PM

กมธ.ศึกษาMOU วุฒิสภา ขอขยายเวลาทำงาน ชี้ MOU43 สุ่มเสี่ยงขัดรธน.-กฎหมายในประเทศ หลังไม่พบหลักฐาน ขอความเห็นชอบ ครม. ‘เดชา’ ยกถ้อยคำMOU43 ว่าด้วยสัมพันธ์อันดี ไทย-กัมพูชา แต่ตอนนี้ไม่ได้ดีต่อกันแล้ว ถือว่าต้องตกไป

27 ต.ค.2568-ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณารายงานความคืบหน้าการพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก เอ็มโอยู 2543 และเอ็มโอยู 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก เอ็มโอยู 2543 และเอ็มโอยู 2544 เพื่อแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีนายนพดล อินนา สว.เป็นประธานกมธ.ฯ

นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสว.ในฐานะที่ปรึกษากมธ.ฯ รายงานผลการศึกษาเบื้องต้นว่า จากการตรวจสอบในรายละเอียดของที่มาของเอ็มโอยู 2543 จะพบว่ามีความสุ่มเสี่ยงที่จะขัดกับรัฐธรรมนูญ ระเบียบสำนักนายกฯ มติคณะรัฐมนตรี(ครม.)และขัดกับบันทึกการประชุมเจบีซี ครั้งที่ 2 เอ เมื่อปี 2543 เนื่องจากมีข้อกำหนดต่อกระบวนการจัดทำเอ็มโอยู 2543 ที่ต้องส่งให้ ครม. เห็นชอบ แต่จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการเสนอให้ ครม. เห็นชอบ มีเพียงการเสนอให้รับทราบเท่านั้น ทั้งที่ระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดบทบัญญัติไว้ชัดเจน รวมไปถึงบันทึกการประชุมเจบีซีครั้งที่ 2 เอ เมื่อปี 2543 ที่ระบุว่า เมื่อจะทำเอ็มโอยูทั้งสองฝ่ายจะเสนอเอ็มโอยูต่อรัฐบาลของตนเพื่อขอความเห็นชอบ

“การตรวจสอบเรื่องนี้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 224 วรรคแรก กำหนดไว้ว่า ครม.ต้องเห็นชอบ แต่ที่ผ่านมาพบว่ามีเพียงเสนอให้รับทราบ ดังนั้นกลัวจะเป็นปัญหา ว่าขัดกับกฎหมาย หรือไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จำเป็นต้องเสนอรายงานเบื้องต้นนี้ ไปยัง ครม.ให้พิจารณาว่าจะดำเนินการยืนยัน ทบทวน หรือ โต้แย้งความเห็นของกมธ.ฯต่อไป”

นายคำนูณ ชี้แจงว่า ปัจจุบันมีสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ หากครม. เห็นว่าเรื่องนี้สำคัญ ต้องหาคำตอบเบื้องต้น ครม. อาจตั้งคำถามไปยังกฤษฎีกาและนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดไปให้พิจารณาว่า มีความสมบูรณ์ ถูกต้อง บกพร่องหรือไม่ ส่วนผลที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างไร ครม.สามารถแก้ไข ปรับปรุง หรือตัดสินใจได้ ขณะที่เอ็มโอยู 2544 กมธ.ฯ ได้ตรวจสอบในประเด็นเดียวกัน พบว่าค่อนข้างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ไม่เหมือนกับ เอ็มโอยู 2543 ที่สุ่มเสี่ยงขัดกับรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ หลังการรายงานผลการพิจารณาเบื้องต้น กมธ.ฯได้เสนอให้ที่ประชุมวุฒิสภา พิจารณาเห็นชอบขยายเวลาการพิจารณาศึกษา ออกไปเป็นกรณีพิเศษ อีก 90 วัน เนื่องจากมีความละเอียดซับซ้อน มีผลกระทบต่อความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ตาม นายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สว.ในฐานะกมธ.การต่างประเทศ วุฒิสภา คัดค้านการขยายเวลาดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่ามีความซ้ำซ้อนกับกมธ.สามัญ เช่น กมธ.การต่างประเทศ ที่ได้ศึกษาเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ทำเรื่องดังกล่าวในชั้นของสภาฯ ด้วย

ขณะที่ น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. อภิปรายสนับสนุนให้ขยายเวลาดังกล่าว เนื่องจากมองว่ากมธ.ฯ ควรมีข้อเสนอที่ตรงประเด็นในรายละเอียดที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่เขตแดนทางทะเลที่ทับซ้อน บริเวณเกาะกูด

ส่วนนายเดชา นุตาลัย สว. เสนอความเห็นว่า ไม่ติดใจว่าจะขยายเวลาศึกษาหรือไม่ แต่ในเอ็มโอยู 2543 มีถ้อยคำที่ระบุตอนหนึ่งว่า มีความสัมพันธ์อันดี อย่างเป็นมิตรไมตรีดีต่อกัน แต่ขณะนี้ไม่ได้ดีต่อกันแล้ว ในทางกฎหมายเหมือนกับว่าควรตกไปได้แล้ว

ทั้งนี้จะมีการลงมติตัดสิน นายปริญญา กล่าวว่า ไม่ติดใจ และถือว่าให้เป็นข้อสังเกตต่อกมธ.ฯเพื่อศึกษาต่อไป ทำให้ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ในฐานะประธานในที่ประชุม กล่าวว่า ถือว่ามติที่ประชุมเห็นชอบให้ขยายเวลา ซึ่งการดำเนินการขณะนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้ลงนามข้อตกลงขั้นต้นไปแล้ว เพื่อดูว่าท่าทีต่างๆ ของกัมพูชา เป็นอย่างไร แต่การนำไปสู่เอ็มโอยู 2543 และ เอ็มโอยู 2544 นั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ป็นห่วงในเรื่องการเสียดินแดน

จึงถือว่าที่ประชุมเห็นชอบให้กมธ.ฯขยายเวลาออกไป

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.