จิบชาย่านหว่านไจ๋ ณ ‘Ho Wah’ ร้านชานม แห่งกาลเวลา ตำนานฮ่องกงกว่า 70 ปี
ในย่านเก่า “หว่านไจ๋” ที่ยังคงเสน่ห์ของฮ่องกงยุคเก่าไว้อย่างเต็มเปี่ยม มีร้านชานมเล็กๆ ชื่อว่า “Ho Wah” ที่เปิดประตูต้อนรับผู้คนมากว่า 7 ทศวรรษ ร้านที่คนฮ่องกงรุ่นแล้วรุ่นเล่ามานั่งจิบชานมร้อนเป็นอาหารเช้า ก่อนเริ่มต้นวันใหม่อย่างเรียบง่ายและอบอุ่น ความหอมละมุนของชานมในถ้วยกระเบื้องเล็กๆ ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่ม แต่คือ “รสชาติของเวลา” ที่พาเราย้อนกลับไปสัมผัสความเรียบง่ายในแบบฮ่องกงแท้ๆ
“ร้านเราก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1952 จากรถเข็นเล็กๆ ริมถนน” เสียงของ “Bill Ho” ทายาทรุ่นที่สามของร้านเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน เขาเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นที่คุณปู่เปิดร้านเล็กๆ ในย่านนี้ ก่อนจะค่อยๆ เติบโตเป็นคาเฟ่แรกๆ ของฮ่องกงในปี 1980 และขยับขยายสู่ร้านใหม่ในอาคารประวัติศาสตร์เมื่อปี 2013 ตามคำเชิญขององค์การฟื้นฟูเมือง (URA)

อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นราวๆ ปี 1910 และยังคงกลิ่นอายของวันวานไว้อย่างครบถ้วน จากระเบียงไม้สไตล์ฝรั่งเศส บันไดเก่าเสียงแผ่ว ไปจนถึงแสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างบานไม้ มันคือฉากหลังที่บอกเล่าเรื่องราวของฮ่องกงในแต่ละยุคได้ประหนึ่งมีชีวิต ที่ผ่านมา ร้านชานมแห่งนี้ ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย โดยเฉพาะช่วงโควิดที่เป็นช่วงเวลายากลำบาก ซึ่งนั่นทำให้ทายาทอย่างเขาต้องก้าวขาเข้ามารับช่วงต่อร้านชานมจากคุณพ่อ เริ่มเรียนรู้ทุกอย่างใหม่ เพื่อสานต่อตำนาน Ho Wah ให้คงอยู่ต่อไป “สิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดคือการได้รักษาทั้งกิจการของครอบครัว และสูตรชานมดั้งเดิมเอาไว้ในแบบที่ไม่เปลี่ยนไปเลย” Bill Ho บอกกับเราด้วยแววตามุ่งมั่น

โดยความพิเศษของชานมร้านนี้อยู่ที่ “สูตรชาผสมเฉพาะของครอบครัว” ซึ่งมีการคัดเลือกใบชาจนได้รสชาติที่เข้มข้น นุ่ม ละมุน และกลิ่นหอมลึก ไม่เหมือนชาที่ซื้อจากผู้ค้าทั่วไป อีกทั้งยังใช้กรรมวิธีต้มชาแบบดั้งเดิม ที่ “ไม่ใช้เครื่องจักร” ทำให้คนชิมสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของคนชง 100 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ในขั้นตอนการชงชาที่ทำให้ชามีความพิเศษคือ การใช้ถุงกรองลักษณะยาวเหมือนถุงน่องผู้หญิง ซึ่งถ้าหากเทียบกับบ้านเรา ก็คล้ายๆ กับการชงกาแฟโบราณ ซึ่งรสชาติที่ได้จะมีความเข้มข้น กลมกล่อมจากการผสมระหว่างชาดำซีลอนกับนมข้นหวาน และแน่นอน การจิบชานมร้อนๆ ต้องมาควบคู่กับการทานขนมปัง ซึ่งทาง Ho Wah มีเซตเมนูอาหารเช้า “ซิกเนเจอร์” ของฮ่องกง อย่าง “เฟรนซ์โทสต์” หรือ “ขนมปังลูกเกด” สอดไส้ “คายา” สังขยาสไตล์ฮ่องกง และ “เนยสด” ซึ่งทายาทอย่าง Bill Ho ออกปากรับประกันว่า สิ่งนี้คือ “คู่แท้” ของชานมเลย เพราะ “รสหวานละมุนของไส้คายาเข้ากันดีกับความเข้มของชา จิบหนึ่งคำ กัดหนึ่งคำ คือรสชาติยามเช้าแบบฮ่องกงแท้ๆ”


ซึ่งเมื่อได้รับประทานเข้าไป ความรู้สึกแรกหลังจากที่รสชาติของชานมร้อนสัมผัสลิ้น ยอมรับว่าเป็นรสชาติที่ไม่คุ้นเคย หากแต่สิ่งที่เด่นชัดในถ้วยชาถ้วยนี้คือ “กลิ่นหอมของชา” ที่ทักทายปลายจมูกทันทีที่ยกขึ้นจิบ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน Ho Wah ที่ Bill Ho ผู้เป็นทายาท บอกกับเราตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งความหอมของชาที่มีความเฉพาะตัวนี้เอง เป็นตัวช่วยส่งเสริมรสชาติของชาที่มีความ ขมปร่านิด ๆ หลังจิบครั้งแรก ให้เคล้ารสชาติหวานในครั้งต่อไป

และเมื่อรับประทานคู่กับขนมปังลูกเกดไส้คายาของทางร้าน ยิ่งเพิ่มความละมุนมากขึ้นไปอีก เป็นรสสัมผัสที่ทำให้ชีวิตยามเช้า “สมบูรณ์แบบ” คล้ายกับเป็นสัญญาณการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดี สำหรับย่านหว่านไจ๋ นอกเหนือจากการมาเยือน Ho Wah แล้ว ย่านนี้ยังอุดมไปด้วย “ของอร่อย” ที่นักท่องเที่ยวสายกินต้องไม่พลาด Bill Ho เล่าว่า หว่านไจ๋ เป็นย่านที่ความอร่อยไม่เคยหลับ เป็น “สวรรค์ของนักชิม” มาตั้งแต่ยุคก่อน เพราะเป็นจุดรวมของผู้คนจากหลายภูมิภาค ทั้งจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง ต่างนำรสชาติอาหารของบ้านเกิดมาเปิดร้าน ทำให้เกิดความหลากหลายอย่างน่าทึ่งในตรอกซอกซอยเดียว

“ถ้าใครมาเยือนฮ่องกงครั้งแรก ผมอยากให้เริ่มที่ย่านนี้” เขาแนะนำด้วยรอยยิ้ม “ลองชิมบะหมี่เนื้อสะเต๊ะ หรือซาลาเปาสับปะรด กับเนยสด อาหารง่ายๆ แต่เต็มไปด้วยเรื่องราว” ซึ่งทั้งหมดที่เขาว่า เป็นเหตุผลที่ทำให้ร้านชานมแห่งนี้ยังมีผู้คนแวะเวียนมาสัมผัสหว่านไจ๋ยามเช้า และจิบชานมร้อนที่เป็นสัญลักษณ์แห่งกาลเวลา อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ Ho Wah ไม่ได้เป็นเพียงร้านชานมเก่าแก่ หากแต่เป็น “สัญลักษณ์แห่งความผูกพัน” ของชาวฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็นการอนุรักษ์ต่อรสชาติเดิม ไปพร้อมๆ กับการเปิดรับยุคใหม่ Bill Ho บอกว่า การสืบทอดกิจการในยุคนี้ไม่ใช่แค่รักษาสูตร แต่คือการรักษาความทรงจำ


“ผมอยากให้คนรุ่นใหม่ได้รู้ว่ารสชาติของชานมแบบดั้งเดิมมันมีความหมายมากกว่าความอร่อย มันคือความทรงจำของบ้าน ความทรงจำในวัยเยาว์ และความเป็นฮ่องกงในทุกยุค” ก่อนจบบทสนทนา Bill Ho ได้ส่งข้อความถึงนักชิมชาวไทยด้วยความอบอุ่นว่า “ถ้ามาเยือนฮ่องกง อยากให้ลองมานั่งในคาเฟ่แบบดั้งเดิมอย่าง Ho Wah ดูครับ สัมผัสบรรยากาศเรียบง่ายของคนท้องถิ่น ลองจิบชานมร้อนสักถ้วยในตอนเช้า แล้วจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงเรียกมันว่า จิตวิญญาณของฮ่องกง”


เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชานม เครื่องดื่ม ไปจนถึงจานอาหาร ทั้งหมดคือรสชาติ “แห่งกาลเวลา” ที่บรรจุความทรงจำในช่วงเวลาหนึ่งราวกับเป็นเครื่องย้ำเตือนว่า ครั้งหนึ่งเคยผ่านชีวิตที่ครบทุกรสชาติ และเมื่อใดที่หวนนึกถึงช่วงเวลานั้นๆ กลิ่นหอมของอาหาร กระทั่งกลิ่นชานมร้อนของร้าน Ho Wah จะทำหน้าที่คล้ายปฏิทินชีวิตที่บันทึก ผนึกเรื่องราวในช่วงเวลานั้นเอาไว้
สัมผัสรสชาติแห่งกาลเวลาที่ “Ho Wah Milk Tea Cafe” บนถนน 7 Mallory Street, Wan Chai, Hong Kong โดยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ ช่วงเช้า-บ่าย