โตโยต้า ชูกลยุทธ์ Multi-Pathway ดันยอดขายรถยนต์ xEV 30% ของตลาดอาเซียน ขายกว่า 1.5 ล้านคัน ภายในปี 2573 ลุยผลิตรถยนต์อีก 10 รุ่นในเวลา 3 ปี
นายมาซาฮิโกะ มาเอดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียของโตโยต้ามอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยในงาน Toyota Motor Asia’s Media Day ซึ่งจัดขึ้นควบคู่ไปกับงาน Japan Mobility Show โดยได้ประกาศกลยุทธ์องค์กรระดับภูมิภาคของโตโยต้าว่า บริษัทจะเดินหน้าเพื่อดำเนินการภายใต้กลยุทธ์พลังงานทางเลือกที่หลากหลาย หรือ Multi-Pathway ภายใต้วิสัยทัศน์ “Mobility for All” ด้วยการสร้างความมั่นใจว่าไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

Toyota พร้อมนำเสนอโซลูชั่นการขับขี่มลพิษต่ำและไร้มลพิษ โตโยต้ามุ่งมั่นตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในเอเชียได้ภายใต้หลักการ 3 ประการ ได้แก่
ดีที่สุดในเมือง (Best in Town)
ลูกค้ามาก่อน (Customers Comes First)
เริ่มต้นด้วยการลงมือทำ (Start by Doing)

ทั้งนี้ โตโยต้าในเอเชียจะขยายไลน์ผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฮบริดไฟฟ้า (HEVs) ราคาประหยัด เพื่อขับเคลื่อนการขยายฐานการผลิตรถยนต์ไฮบริดไฟฟ้าตามแนวทาง “Multi-Pathway” และเริ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEVs) ในประเทศไทยและอินโดนีเซียภายในสิ้นปี 2568

“ตามที่ประธานคณะกรรมการบริหาร คุณอากิโอะ โตโยดะ ยึดมั่นในปรัชญา Best in Town (ดีที่สุดในเมือง) ว่าเราไม่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ด้วยการเร่งเพิ่มจำนวนรถยนต์ทั้งหมดเพียงอย่างเดียว สิ่งสำคัญที่สุดคือการเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในเมืองนั้น ด้วยจิตวิญญาณนี้ กลยุทธ์นี้ จะเน้นย้ำถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการสัญจรและความต้องการของสังคมในแต่ละตลาดของเอเชีย”

โตโยต้าปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ xEV ผ่านพันธกิจ “30 by 30 Mission” โดยตั้งเป้ายอดขาย xEV 30% ในภูมิภาคอาเซียนภายในปี 2573 คาดว่ายอดขาย xEV สะสมในภูมิภาคมากกว่า 1.5 ล้านคัน หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ 25 ล้านต้น หรือลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 8 ล้านตัน

นอกจากนี้ โตโยต้า เปิดตัวรถยนต์ “Land Cruiser FJ” รุ่นใหม่ ซึ่งจะผลิตในประเทศไทย เพื่อมอบคุณค่าใหม่ในรูปแบบของ “อิสรภาพและความสุข” ที่มาจากความสนุกสนานใน Land Cruiser ในแบบฉบับเฉพาะของลูกค้าแต่ละราย ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาความน่าเชื่อถือ ความทนทาน และสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คน

นอกจากนี้ โตโยต้ายังเตรียมเปิดตัวรถยนต์ IMV ใหม่ออกสู่ตลาดและรวมทั้งรถ IMV BEV เพื่อมอบทางเลือกให้กับลูกค้า เป็นการตอบสนองความต้องการรถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้าของลูกค้ากลุ่มนี้ สำหรับตลาดภูมิภาคอาเซียนรวม 10 รุ่น ภายในเวลา 3 ปีจากนี้ไป
ในงาน Japan Mobility Show ปีนี้ โตโยต้า เปิดตัวแบรนด์รถยนต์หลากหลายรุ่น ได้แก่ Century, Lexus, GR, Toyota และ Daihatsu ที่โตโยต้าต้องการเน้นย้ำถึงบทบาทอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ และการทำงานร่วมกันเพื่อส่งมอบวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลมากขึ้น
ภายใต้หัวใจสำคัญของปรัชญาของโตโยต้า คือ “Mobility for All” ซึ่งเป็นพันธสัญญาที่นำทางบริษัทมาตั้งแต่เริ่มต้นด้วยลูกค้าเกือบ 10 ล้านคน ที่เลือกใช้โตโยต้าในแต่ละปี แต่ละแบรนด์ จึงเข้าใจว่า “ทุกคน” หมายความว่าทุกคนสมควรได้รับโซลูชั่นการสัญจรที่เหมาะสม ซึ่งก็คือการนำเสนอทางเลือกที่เหมาะสมให้กับคุณ เพราะไม่มีใครควรถูกทอดทิ้งไว้
โดยจัดแสดงแนวทาง Multi-Pathway ของโตโยต้าในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งมุ่งเน้นการนำเสนอทางเลือกของโซลูชั่นที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า กลยุทธ์นี้ครอบคลุมระบบส่งกำลังที่หลากหลาย ด้วยการรับฟังลูกค้าและนำเสนอโซลูชั่นที่ใช้งานได้จริง
โตโยต้าจึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จะมีคุณภาพสูง ปลอดภัย มีความเชื่อถือได้ในด้านความทนทานด้วยปรัชญานี้โตโยต้าจึงมุ่งมั่นพัฒนาโซลูชั่นที่สร้างสมดุล ระหว่างนวัตกรรมและประโยชน์ที่ยั่งยืน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกย่างก้าวจะสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับทั้งผู้คนและสังคม
“ที่โตโยต้า เราเชื่อว่าการบรรลุเป้าหมายการขับเคลื่อนสำหรับทุกคนและความเป็นกลางทางคาร์บอนนั้น จำเป็นต้องอาศัยมากกว่าหนึ่งโซลูชั่น ทั้งยานยนต์ พลังงาน และข้อมูล เราเชื่อว่าอนาคตของการขับเคลื่อนเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นได้ ผ่านความร่วมมือ จุดมุ่งหมายร่วมกัน และการดำเนินการร่วมกัน เมื่อร่วมมือกัน เราจะสามารถสร้างระบบนิเวศการขับเคลื่อนที่สร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนทั่วภูมิภาคเอเชียได้”