 
            ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เผยการสำรวจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคนละครึ่งพลัส คาดประชาชนใช้จ่ายเฉลี่ยเงินหมุนเวียน 1,000-1,500 ล้านบาทต่อวัน ขณะที่ร้านค้ายังเข้าร่วมไม่มาก เร่งรัฐสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้เกิดแรงกระตุ้นการใช้จ่ายมากขึ้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย กล่าวว่า จากการสำรวจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคนละครึ่งพลัสของรัฐบาล ซึ่งมีการเริ่มใช้ไปเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยการสำรวจจากผู้เข้าร่วมโครงการ 20 ล้านคน จะใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และจากการติดตามข้อมูลในวันแรกที่เริ่มมาตรการดังกล่าว ประชาชนมีการใช้มาตรการคนละครึ่งพลัสอยู่ประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งยังเป็นจำนวนไม่มาก

อาจจะมีผลกระทบมาจากร้านค้าเข้าร่วมโครงการไม่เยอะ การจับจ่ายไม่กว้างขวาง อีกทั้งผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น แต่โครงการนี้ก็ยอมรับว่าสามารถช่วยลดค่าครองชีพและแบ่งเบาภาระให้กับประชาชน แต่สัญญาณการใช้ยังคงถือว่าปริมาณไม่สูงนัก
“ประเมินว่าการใช้จ่ายต่อวันในมาตรการดังกล่าวจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000-1,500 ล้านบาท ที่จะเข้าไปกระตุ้นหมุนเวียนในเศรษฐกิจ และคาดว่าในหนึ่งเดือนจะมีเงินหมุนเวียนประมาณ 40,000 ล้านบาท และใน 2 เดือนของโครงการจะมีเงินหมุนเวียนประมาณ 88,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศ
และหากรัฐบาลมีการขยายมาตรการดังกล่าวเฟสสองก็จะทำให้เศรษฐกิจประคองตัว ทำให้เศรษฐกิจจีดีพีภาพรวมมีการขยายตัวในอัตรา 2% แต่ก็ยังกระตุ้นเศรษฐกิจไม่รุนแรงมากนัก เพราะจากความกังวลของร้านค้าที่เข้าร่วมจะโดนภาษี และขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการยุ่งยากซับซ้อนใช้เวลานาน”

ดังนั้น รัฐบาลควรจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมมากขึ้น เพราะเมื่อดูร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการอยู่ประมาณ 600,000 ราย คิดเป็น 20% ของจำนวนผู้ประกอบการที่มีประมาณ 3,000,000 ราย และเมื่อรัฐบาลเดินหน้าเฟสสองก็จะทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจมีแรงหนุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ อีกทั้งรัฐบาลอาจจะต้องมีมาตรการเพิ่มเติม
นายวาทิตร รักษ์ธรรม ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย กล่าวถึงผลสำรวจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคนละครึ่งพลัส 2568 ว่าโดยส่วนใหญ่ 86.8% เคยเข้าร่วมคนละครึ่งครั้งก่อน และ 64.6% ได้สิทธิเข้าร่วมโครงการในกลุ่ม 2,000 บาท และ 75.1% คาดว่านำเงินไปใช้แบบเต็มจำนวน โดย 54.2% ใช้ภายในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม
และจากการสำรวจยังพบว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคนละครึ่งพลัส คนส่วนใหญ่ยังมองว่ากระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ยกระดับคุณภาพชีวิตได้ แต่ไม่ได้มากนัก และหากโครงการคนละครึ่งพลัส รอบสอง 83.9% เข้าร่วมแน่นอน 12.3% ไม่เข้าร่วม 3.8% ไม่แน่ใจ