 
            จากกรณีมติ ครม.เห็นชอบเมื่อวันที่ 30 กันยายน อนุมัติโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.45 ล้านราย วงเงิน 22,780 ล้านบาท
แบ่งการเติมเงิน ออกเป็น 2 งวด ดังนี้
งวดแรก :  วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 จำนวน 850 บาท บวกสิทธิที่ได้รับทุกเดือน 300 บาท รวมเป็นเงิน 1150 บาท
งวดสอง : โอนเงินเข้า วันที่ 1 ธันวาคม 2568 จำนวน 850 บาท บวกสิทธิที่ได้รับทุกเดือน 300 บาท รวมเป็นเงิน 1150 บาท
รวมทั้ง 2 เดือนเป็นเงิน 2300 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนละครึ่งไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ เงินคงเหลือไม่สะสมในเดือนถัดไป ต้องใช้จ่ายให้หมดภายใน 1 เดือน
 
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 เดือนพฤศจิกายน ได้สิทธิดังนี้
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568
	- ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้เงินจำนวนทั้งสิ้น 1,150 บาท
- ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถใช้วงเงินซื้อสินค้าประเภทต่าง ๆ ที่ร้านธงฟ้า และ ร้านค้าที่ร่วมโครงการได้ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ยกเว้นสินค้าที่ไม่สามารถใช้วงเงินได้ ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์, สลากกินแบ่ง และสินค้าทั่วไปที่เป็นการชำระค่าสินค้าล่วงหน้า (prepaid)
- ซื้อสินค้าได้เต็มวงเงินไม่จำกัด
- เงินคงเหลือไม่สามารถสะสมในเดือนถัดไป
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน 
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน
- (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)
 ค่าไฟฟ้า
	- ค่าไฟฟ้า (ใช้ฟรี) หากใช้ไม่เกิน  315 บาท/ครัวเรือน/เดือน
ค่าน้ำประปา
	- ส่วนลดค่าน้ำประปา จำนวน 100บาท/ครัวเรือน/เดือน
 

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนละครึ่ง กดเป็นเงินสดได้ไหม
 
วันที่ 20 พฤศจิกายน
	- ในส่วนของสิทธิที่จะได้รับใน วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 คือ เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ คนละ 200 บาทต่อเดือน
- สิทธินี้สำหรับผู้มีสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เป็นคนพิการ และมีบัตรประจำตัวคนพิการ รวมถึงได้รับเบี้ยความพิการอยู่แล้วเดือนละ 800 บาท
- โดยเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท
วันที่ 24 พฤศจิกายน
	- เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 รอบแก้ไขรายการที่โอนเงินไม่สำเร็จ ครั้งที่ 1 ในอัตรา 100 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 8 เดือน (เดือนกุมภาพันธ์ - กันยายน) ตามเดือนที่ได้รับสิทธิกำหนดโอน แบ่งกลุ่มตามวันเดือนปีเกิด โดยจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้มีสิทธิแจ้งตามหนังสือยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น หรือโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก รอบแก้ไขรายการที่โอนเงินไม่สำเร็จ ครั้งที่ 2.
สรุป:
	- ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนละครึ่ง "ไม่สามารถกดเป็นเงินสดออกมาใช้ได้".
ที่มา: