พ่อทหารกล้าสละชีพบน "ปราสาทตาควาย" เล่านาทีจุกอกตอนพาครอบครัวไปทำพิธีเชิญวิญญาณลูกชายกลับบ้าน ขอรัฐบาลทบทวน อย่าให้ทหารทุกคนที่สละชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย ต้องสูญเปล่า
วันที่ 1 พ.ย. 68 จากกรณีที่โลกโซเชียลได้ทวงคืน "ปราสาทตาควาย" อ.พนมดงรักษ์ จ.สุรินทร์ หลังมีกระแสว่ากัมพูชาได้เข้าไปยึดที่มั่นในตัวปราสาท พร้อมวางกำลังและอาวุธเป็นฐาน โดยกังวลว่าจะไม่ได้ปราสาทกลับคืนมา หลังจากที่ทางฝ่ายไทยและกัมพูชา ได้ลงนามสันติภาพ จนเกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้าน ในหมู่ 8 บ้านลือ ต.ลือ อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ซึ่งเป็นบ้านของ ส.อ.กฤษฎา น้อยโคตร หนึ่งในทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สมรภูมิปราสาทตาควาย และเป็นหนึ่งในหน่วยบินโดรนนกฟีนิกซ์ แห่งกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 ซึ่งได้เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คน
โดยพบกับ นายเสพสรรค์ น้อยโคตร อายุ 55 ปี พ่อของ ส.อ.กฤษฎา ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า จากกรณีที่มีข่าวว่าไทยต้องเสียดินแดนบริเวณปราสาทตาควายให้กับกัมพูชานั้น รู้สึกจุกในอก เสียใจ จนพูดไม่ออกเลย เพราะทหารที่สละชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย ในพื้นที่ปราสาทตาควายและบริเวณอื่นๆ ล้วนแล้วแต่ทำหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ยอมเสียสละแม้กระทั่งชีวิต กลับกลายต้องมาสูญเปล่า ถ้าผู้นำยอมเสียดินแดนจริง ส่วนตัวตนไม่ยอมแน่ ในฐานะคนไทยคนหนึ่งจะไม่ยอมเสียดินแดนไทยแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ขอให้รัฐบาลทบทวนเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง อย่าให้ทหารต้องตายฟรีเลย

ทั้งนี้ ครั้งล่าสุดตนเองและครอบครัวก็ได้ขึ้นไปบริเวณปราสาทตาควาย เพื่อทำพิธีเชิญวิญญาณลูกชายกลับบ้าน ก็เห็นว่าบริเวณปราสาทตาควาย ทหารไทยก็คุมพื้นที่อยู่ และเป็นอธิปไตยของไทย ไม่อยากเชื่อว่าไทยจะต้องสูญเสีย นายเสพสรรค์ กล่าว