‘ม.นเรศวร’โชว์นิทรรศการ
เทิดพระเกียรติ‘พระพันปีหลวง’
ราชนิยม : รากวัฒนธรรม สู่ความสง่างามร่วมสมัย

จากหนึ่งในพระราชกรณียกิจของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงเล็งเห็นคุณค่าและปูรากฐานของการพัฒนาผ้าไทย ไปสู่การพัฒนา “ชุดไทยพระราชนิยม” ต้นแบบสำหรับสตรีไทยสวมใส่ด้วยความภาคภูมิใจมาถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) จ.พิษณุโลก จึงจัดนิทรรศการ “ราชนิยม : รากวัฒนธรรม สู่ความสง่างามร่วมสมัย” โดยพิพิธภัณฑ์ผ้า กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งมีรองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานพิธีเปิดนิทรรศการที่พิพิธภัณฑ์ผ้า มน.

ภายในนิทรรศการดังกล่าว ได้นำผลงานที่เกิดจากการตัดเย็บชุดไทย พระราชนิยม ในสมัยรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นการตัดเย็บอย่างถูกต้องตามแบบแผน ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงศึกษาค้นคว้า และออกแบบขึ้น เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ เพื่อให้ได้ตามรูปแบบที่งดงามและประณีต โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยังเคยพระราชทานชุดไทยแบบพระราชนิยมไว้ ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าแห่งนี้ เพื่อให้ได้ชื่นชม และสามารถนำไปเป็นแบบอย่างในการตัดเย็บให้สตรีไทยได้ใช้สวมใส่ในโอกาสต่างๆ อีกทั้งพระองค์ยังทรงเป็นผู้นำในการฉลองพระองค์ชุดไทยพระราชนิยมในโอกาสต่างๆ เสมอมา ทำให้ชุดไทยได้รับความนิยมทั้งในหมู่สตรีไทย และเป็นที่รู้จักในนานาอารยประเทศ

นิทรรศการครั้งนี้ เป็นการเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับชุดฉลองพระองค์ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 6 ชุด มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดแสดงเพื่อให้ประชาชนได้ชมอย่างใกล้ชิด ผ่านตู้กระจก ตลอดจนผลิตภัณฑ์จากสิ่งทอต่างๆ นับเป็นการพัฒนาต่อยอด และสร้างมูลค่าเพิ่มจากผ้าทอได้เป็นอย่างดี ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริม SOFT POWER และอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติไทย ขณะเดียวกันเปิดพื้นที่ส่วนหนึ่งจัดให้มีพิธีลงนามถวายความอาลัย แห่งการเสด็จสวรรคตของพระองค์ พร้อมจัดทำริบบิ้นสีดำไว้ทุกข์มอบให้ประชาชนทั่วไปไว้ใช้ติดเสื้อผ้า เพื่อแสดงออกถึงการไว้ทุกข์ แสดงความอาลัยต่อพระองค์อีกด้วย

นิทรรศการ “ราชนิยม : รากวัฒนธรรม สู่ความสง่างามร่วมสมัย” จะจัดแสดงให้ชมต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2569 ผู้สนใจสามารถเดินทางไปชมได้ในวันและเวลาราชการ