ทำความรู้จัก ฟาสต์เวิร์ค (Fastwork) แพลตฟอร์มหางานฟรีแลนซ์ของ ซีเค เจิง กับความฝันที่อยากให้เป็นเครื่องมือเปลี่ยนแปลงประเทศไทย กระจายรายได้สู่พื้นที่ห่างไกล และพาฟรีแลนซ์ไทยบุกตลาดโลก
ฟรีแลนซ์ (Freelance) กลายเป็นหนึ่งในรูปแบบการจ้างงานที่เริ่มมีความนิยมมากขึ้น ทั้งในมุมของผู้ว่าจ้าง องค์กรต่าง ๆ ที่สามารถหาคนทำงานที่เหมาะกับความต้องการได้ ขณะเดียวกันผู้ที่ทำงานอิสระ ก็สามารถเลือกทำงานที่ตรงกับความต้องการ หรือผู้มีงานประจำและอยากเพิ่มรายได้ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเพิ่มรายได้ เพิ่มเงินในกระเป๋า
แพลตฟอร์มหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการจ้างงานฟรีแลนซ์ในไทย คงเป็นแพลตฟอร์มไหนไปไม่ได้นอกจาก “ฟาสต์เวิร์ค (Fastwork)” ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของ ซีเค เจิง (CK Cheong) ที่มีความฝันอยากให้ฟรีแลนซ์ไทยบุกตลาดโลก
“ประชาชาติธุรกิจ” ชวนรู้จักที่มาที่ไปของแพลตฟอร์มแห่งนี้ให้มากขึ้น
จุดเริ่มต้นของแพลตฟอร์มนี้ แท้จริงแล้วเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2558 โดย 2 ผู้ก่อตั้ง คือ อาพร พลานุเวช และวสะ สุภาโชค เอี่ยมสุรีย์ ซึ่งเริ่มต้นหลังจากตัดสินใจที่จะกลับมาใช้ชีวิตที่ประเทศไทย โดยตั้งใจสร้างแพลตฟอร์มนี้เพื่อเป็นตลาดความสามารถ เพิ่มพื้นที่ในการหางานอิสระ
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ ซีเค ได้เข้ามาบริหาร Fastwork เกิดจากช่วงปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์โควิด-19 นักลงทุนส่วนใหญ่ทั้งที่เป็นบริษัท และ VC ชะลอเรื่องการลงทุนธุรกิจใหม่ ๆ และ Fastwork เอง ต้องนำเงินลงทุนที่ได้ มาใช้ในการบริหารธุรกิจ จนทำให้เข้าสู่จุดเกือบล้มละลาย นำไปสู่การมองหาความเป็นไปได้ เพื่อส่งไม้ต่อธุรกิจและได้เข้ามาบริหารตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ ซีเค เคยให้สัมภาษณ์กับ Techsauce ระบุว่า เหตุผลแรก ๆ ของการซื้อกิจการ เป็นเพราะทีมงานรักองค์กรมาก โดยซีเคเอง ได้มีโอกาสมานั่งทำงานร่วมกับทีมงานของ Fastwork เป็นเวลาราวปีกว่า ๆ และเห็นว่ามีความรักและทำงานหนักอย่างมาก แม้ผู้บริหารกลุ่มเดิมถอดใจแล้ว ช่วงเวลานั้นทำให้ซีเคเห็นถึงความมุ่งมั่นและศักยภาพของทีม และเชื่อว่าทีมดังกล่าวมีดีพอที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มให้เติบโตได้ไกลกว่าเดิม
ซีเค ยังบอกเล่าเพิ่มเติมกับ Techsauce ว่า มอง Fastwork เป็น “เครื่องมือที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย” และเชื่อว่าสามารถกระจายรายได้ไปยังพื้นที่ห่างไกล ทำงานจากที่บ้านได้ และผลักดันบริการของคนไทยสู่ตลาดโลก
นอกจากนี้ ในบทสัมภาษณ์ยังย้ำในจุดยืนว่า แม้ธุรกิจจะเบิร์นเงินหลักล้านบาทต่อเดือน แต่ไม่เคยคิดถึงเรื่องจุดคุ้มทุน (Break-even point) เลย และมองว่า Fastwork ไม่ใช่การลงทุนแค่เชิงธุรกิจ แต่เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตประเทศไทย
หากมองไปในช่วงไม่กี่ปีที่ซีเคเข้ามาบริหาร Fastwork จะเห็นได้ว่ามีการใช้กลยุทธ์ในการทำการตลาด ตั้งแต่การโปรโมตผลงานต่าง ๆ จากฟรีแลนซ์ที่อยู่ในแพลตฟอร์ม รวมไปถึงการให้ส่วนลดและเงินคืนต่าง ๆ โดยเฉพาะกรณีการจ้างฟรีแลนซ์ซ้ำ
ขณะที่ปัจจุบัน Fastwork มีจำนวนผู้ใช้งานแตะ 5 ล้านราย และมีหมวดหมู่ของฟรีแลนซ์ที่ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นออกแบบกราฟิก, สถาปัตย์และวิศวกรรม, เว็บไซต์และเทคโนโลยี, การตลาดและโฆษณา, เขียนและแปลภาษา, ภาพและเสียง, ธุรกิจและที่ปรึกษา, ไลฟ์สไตล์, เช่ารถ, เรียนพิเศษ, ช่าง, งานพาร์ทไทม์, การแพทย์และสุขภาพ และงานที่เกี่ยวกับการจัด Expo ต่าง ๆ

แพลตฟอร์ม Fastwork ดำเนินการภายใต้บริษัท เช้นจ์ซี จำกัด (ชื่อเดิม : บริษัท ฟาสต์เวิร์ค เทคโนโลยีส์ จำกัด) จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2559 ทุนจดทะเบียนปัจจุบันอยู่ที่ 247,711,235 บาท
ข้อมูลจาก Creden Data ระบุว่า บริษัท เช้นจ์ซี จำกัด ส่วนใหญ่มีผลขาดทุนสุทธิ ยกเว้นปี 2564 ที่มีกำไร แต่ผลกำไรมาจากการที่ปีดังกล่าว มีรายได้อื่นสูงถึงกว่า 150 ล้านบาท ขณะที่รายได้หลักช่วงที่ 3-4 ปีล่าสุด อยู่ที่ราว 50-70 ล้านบาท
ขณะที่ในปีหน้า (ปี 2569) ซีเค เจิง เปิดเผยไว้ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า Fastwork จะหันมาพึ่งพารายได้โฆษณาแบบ pay per click (ppc) มากขึ้น เพื่อลดค่า GP สำหรับคู่จ้างซ้ำ ซึ่งหวังว่าจะลดให้เหลือ 0% พร้อมการพัฒนาระบบเพื่อพัฒนาการหางานฟรีแลนซ์ได้ง่ายขึ้น
“ปีหน้า Fastwork จะพึ่งพารายได้จาก pay per click (ppc) ads มากขึ้น เพื่อที่จะไปลด GP สำหรับคู่จ้างซ้ำ(หวังว่าจะให้เป็น 0% เลย) เราอยากจะพัฒนาให้ Fastwork Job Board ของเรา สามารถเป็นช่องทางในการตามหา ผู้ให้บริการที่หลากหลาย พร้อมระบบ Escrow เพื่อช่วยให้คนหาฟรีแลนซ์ที่ใช่ได้ง่ายและปลอดภัยขึ้น และในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เรากำลังจะเปิดระบบการจ้างงานแบบใหม่ ที่ทำให้ผู้ใช้จับคู่กับฟรีแลนซ์ได้รวดเร็วกว่าทุกวันนี้ ไม่ต้องทักหลายคนกว่าจะเจอคนที่เหมาะ” ซีเค เจิง ระบุ
ที่มาข้อมูล : Techsauce, Creden Data