Bitazza ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 6 ปี แห่งการเติบโตภายใต้การกำกับดูแล ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ B2C2 เสริมสภาพคล่องระดับสถาบันในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อตลาดเป็น Super Cycle และวัฏจักร 4 ปีอาจไม่เหมือนเดิม
นายธนวัต สุตันติวรคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทาซซ่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แพลตฟอร์ม Bitazza Thailand นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการในประเทศไทยครบรอบ 6 ปีของการดำเนินงานของ Bitazza Thailand ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญของบริษัทในการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และขยายการเข้าถึงบริการในระดับสถาบันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้กรอบการกำกับดูแลของประเทศไทย โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บิทาซซ่ายังคงดำเนินธุรกิจด้วยเงินทุนของตนเองและไม่เคยมีการปรับลดจำนวนพนักงานแต่อย่างใด แม้กระทั่งในช่วงตลาดหมี หลังจากปี 2021 ที่สิ้นสุดวัฏจักรขาขึ้นและตลาดคริปโต-สินทรัพย์ดิจิทัลซบเซาอย่างต่อเนื่อง”
เมื่อถามว่า หากนับตามวัฏจักรคริปโต หลายรอบที่ผ่านมา ในช่วงเวลานี้นับว่าเข้าสู่จุดสิ้นสุดของวัฏจักรแล้ว และตลาดจะกลับไปเป็นตลาดหมี ทาง Bitazza เตรียมรับมือกับวัฏจักรขาลงอย่างไรบ้าง
นายธนวัต โดยส่วนตัวเชื่อว่า วัฏจักร 4 ปีที่คุ้นเคยของคริปโตเคอร์เรนซีอาจไม่มีแล้ว ด้วยการเข้ามาของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ ทำให้มีการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลนานขึ้น จึงมองว่าอาจเป็น Super Cycle มากกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม หากเกิดกรณีที่วัฏจักร 4 ปียังคงอยู่ และตลาดเข้าสู่ตลาดหมียาวนาน แน่นอนว่าในฐานะผู้ประกอบการนายหน้า และแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ยอดวอลุ่มการซื้อขายย่อมหายไป รายได้จากค่าธรรมเนียมก็ด้วย
แต่ทั้งนี้จากขาลงที่ยาวนานในรอบก่อน เราพบว่าการซื้อขายจากนักลงทุนขนาดใหญ่นอกตลาด หรือที่เรียกว่า OTC ไม่ได้น้อย และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งปริมาณซื้อขายที่ทำให้เราอยู่รอดข้ามมาจนถึงวันนี้ และเรามีความแข็งแกร่งในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกับรายใหญ่ หรือ High Net Worth
ดังนั้นในโอกาสครบรอบ 6 ปี จึงมีการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่มากมาย หนึ่งในนั้นคือ B2C2 ผู้ให้บริการด้านการให้สภาพคล่องสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบกำกับดูแลในประเทศไทย
ในปัจจุบัน บิทาซซ่าให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 120 คู่เหรียญ (THB-Denominated Pairs) ภายใต้กระบวนการคัดกรองและตรวจสอบสินทรัพย์ที่สอดคล้องกับมาตรฐานของ ก.ล.ต. และมียอดการซื้อขายสะสมมากกว่า 535,000 ล้านบาท พร้อมมียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นกว่า 4.5 ล้านครั้ง ซึ่งสะท้อนถึงการมีส่วนร่วมอย่างแข็งแกร่งจากนักลงทุนรายย่อย ลูกค้าระดับสูง (High Net Worth) และนักลงทุนสถาบัน
B2C2 ได้ร่วมงานกับบิทาซซ่ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อ 6 ปีก่อน และภายใต้ความร่วมมือนี้ B2C2 จะเป็นผู้ให้บริการสภาพคล่องหลักแก่ Bitazza Thailand พร้อมร่วมดำเนินโครงการพัฒนาธุรกิจและการเติบโตในหลายด้าน
ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ Bitazza Thailand สามารถขยายบริการในตลาดสถาบันได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ผ่านบริการสภาพคล่องระดับโฮลเซล การจัดการด้านเครดิต และการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและโครงการในอนาคต
โดยบริษัท B2C2 ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 และมี SBI Holdings เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เป็นที่ยอมรับในระดับโลกในฐานะผู้บุกเบิกตลาดสภาพคล่องและการเทรด OTC สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลระดับสถาบัน ให้บริการสภาพคล่องตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน รวมถึงบริการโซลูชั่นทางการเงินสำหรับลูกค้าสถาบัน อาทิ ธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ และผู้ออกโทเค็นสเตเบิลคอยน์ เป็นต้น
ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกำลังเปลี่ยนผ่านจากการมีส่วนร่วมของนักลงทุนรายย่อยไปสู่การมีบทบาทมากขึ้นของนักลงทุนสถาบัน โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 17 ของโลกด้านการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัล (Crypto Adoption) ซึ่งแสดงถึงความพร้อมของประเทศในการเข้าสู่การเติบโตในระดับสถาบันอย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับบริการ RFQ (Request for Quote) ของ Bitazza Thailand ซึ่งเป็นการซื้อขายปริมาณมาก ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทเข้าถึงสภาพคล่องระดับสถาบันได้โดยตรง พร้อมข้อมูลราคาแบบข้ามแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มคุณภาพของการดำเนินคำสั่งซื้อขายและลดความคลาดเคลื่อนของราคา ลูกค้าสถาบันและนักลงทุนมืออาชีพจะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงราคาที่พร้อมแข่งขันกับตลาดได้มากขึ้น สภาพคล่องที่สูงขึ้น และการชำระราคาที่รวดเร็วขึ้น ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ประเทศไทย