พัฒนา "บัญชีดิจิทัล" ผ่าน SAP Business One-CIBA DPU จับมือ PASS ปั้นผู้นำธุรกิจ
GH News November 13, 2025 09:20 AM

เสริมศักยภาพนักศึกษา ฝึกปฏิบัติการทำธุรกรรม การสร้างคู่ค้าและการตั้งค่าสินค้าคงคลัง ไปจนถึงการดำเนินการทางธุรกิจทั้งหมด

หลักสูตรบัญชีดิจิทัล วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ร่วมกับ บริษัท PRARAM 3 ALL SOFTWARE SYSTEM จำกัด จัดโครงการอบรมเสริมศักยภาพการใช้งานโปรแกรม Enterprise Resource Planning (ERP) ระบบ “SAP Business One (SAP B1)” เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 144 เพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจและการประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์ดังกล่าวกับกระบวนการทำงานขององค์กรให้กับนักศึกษา ก่อนออกปฏิบัติงาน CWIE (Cooperative and Work Integrated Education)

โครงการนี้มุ่งพัฒนานักศึกษาชั้นปีที่ 3 (หลักสูตร 4 ปี) และนักศึกษาชั้นปีที่ 2 (หลักสูตรเทียบโอน ภาคพิเศษวันอาทิตย์) ซึ่งเป็นกลุ่มที่สมัครใจเข้าร่วม ขณะเดียวกันการอบรมครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิถึง 6 ท่าน จากบริษัท PRARAM 3 ALL SOFTWARE SYSTEM จำกัด ถ่ายทอดความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและเวิร์กช็อปอย่างเข้มข้น

นักศึกษาทุกคนได้เข้าฐานข้อมูลที่เสมือนเป็น “บริษัทจำลองของตัวเอง” เพื่อฝึกปฏิบัติการทำธุรกรรม การสร้างคู่ค้าและการตั้งค่าสินค้าคงคลัง ไปจนถึงการดำเนินการทางธุรกิจทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ

ปั้นฐานแน่น-ต่อยอดสู่ผู้นำธุรกิจ

ดร.อรัญญา นาคหล่อ ผู้จัดการสถาบันพัฒนานักวิชาชีพบัญชีและอาจารย์ประจำหลักสูตรการบัญชียุคดิจิทัล CIBA DPU เปิดเผยว่า หลักสูตรมีเป้าหมายในการ “ติดปีกนักศึกษา” ให้มีความเชี่ยวชาญในทุกระดับของธุรกิจ เนื่องจากหัวใจสำคัญของการทำบัญชีและตรวจสอบบัญชีอย่างมีประสิทธิภาพ คือ ความเข้าใจใน “กระบวนการทางธุรกิจ” ซึ่งเป็นพื้นฐานเบื้องหลังการทำงานร่วมกับทุกซอฟต์แวร์

“การสร้างฐานความรู้ที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำงาน ถ้าฐานไม่แน่น โครงสร้างเปราะบาง การต่อยอดก็จะล้มเหลว ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับการสร้างรากฐานความเข้าใจใน Business Process เป็นอันดับแรก เพื่อให้นักศึกษาสามารถต่อยอดการทำบัญชีและตรวจสอบบนระบบ ERP ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น SAP, Oracle หรือ Microsoft Dynamics”

นอกจากนี้ ดร.อรัญญา กล่าวอีกว่า ช่วงเวลาการอบรมถือว่าเหมาะสม เนื่องจากนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ได้เรียนเนื้อหาหลักมาแล้ว และกำลังจะออกสหกิจศึกษาในเดือนมกราคม 2569 นี้ การอบรมจึงเป็นการทบทวนและเสริมความพร้อมก่อนเข้าสู่สถานการณ์จริงในสถานประกอบการ อีกทั้งการเน้นสอน “กระบวนการทางธุรกิจ” ยังทำให้นักศึกษาสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในบทบาทผู้ตรวจสอบภายใน หรือผู้สอบบัญชีได้ โดยไม่จำกัดอยู่แค่การทำบัญชีเท่านั้น

จำลอง ERP ครบวงจร เทียบเท่าฝึกพนักงาน 5 วัน

ด้าน นางสาวโสภา นาจันหอม ประธาเจ้าหน้าที่บริหาร PRARAM 3 ALL SOFTWARE SYSTEM จำกัด เปิดเผยว่า เนื้อหาการอบรมครอบคลุมตั้งแต่การตั้งค่า 1 บริษัทของตนเอง จนถึงการทำธุรกรรมครบวงจร ทั้งการจัดการ Business Partner ธุรกรรมซื้อ-ขาย การจัดการสินทรัพย์ถาวร และการจัดทำรายงานทางการเงิน โดยการอบรมนี้เทียบเท่ากับการเทรนพนักงานเต็มเวลา 5 วัน การที่นักศึกษาได้เห็นภาพรวมของระบบ ERP ตั้งแต่ต้นจนจบเป็นประโยชน์มาก เพราะในการทำงานจริงที่บริษัทใหญ่ ๆ คนทำงานมักเห็นแค่ส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ

“ปกติเมื่อทำงานในบริษัทขนาดใหญ่ ผู้ปฏิบัติงานมักจะเห็นเฉพาะส่วนงานที่รับผิดชอบ เช่น เป็น AR ก็จะเห็นเฉพาะในส่วนของ AR หรือการรับชำระเท่านั้น แต่การอบรมครั้งนี้ทำให้นักศึกษาได้เห็นภาพรวมของระบบ ERP ตั้งแต่ต้นจนจบขั้นตอนทั้งหมด ซึ่งเป็นทักษะสำคัญอย่างยิ่งในการก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูงที่ต้องเข้าใจกระบวนการทางธุรกิจแบบองค์รวม”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PRARAM 3 ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า แม้เทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยในหลายด้าน แต่ระบบ ERP ยังไม่สามารถใช้ AI ทำงานแทนได้ทุกกระบวนการ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมภายใน (Internal Control) ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจเชิงลึกและการตัดสินใจของผู้ปฏิบัติงาน นักบัญชีที่ต้องการก้าวขึ้นเป็น CFO จึงต้องเปลี่ยนบทบาทไปเป็นที่ปรึกษาและผู้สนับสนุนฝ่ายปฏิบัติงาน โดยข้อมูลที่ใช้ต้องถูกต้องและทันเวลาจึงจะเกิดประโยชน์ต่อองค์กร

“ผลลัพธ์ของการใช้ SAP B1 ที่ทันสมัยนั้นชัดเจนมาก คือสามารถลดขั้นตอนการทำงานซ้ำซ้อนด้วยมือ และลดจำนวนพนักงานคีย์ข้อมูลลงได้เกือบครึ่งหนึ่ง โดยเฉพาะธุรกิจที่มีการเชื่อมต่อข้อมูลผ่าน API เช่น ธุรกิจรถยนต์ หรือร้านอาหารหลายสาขา การใช้ระบบเชื่อมต่ออัตโนมัติช่วยประหยัดเวลาลงไปได้ประมาณ 2 ชั่วโมงต่อวัน แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือการเชื่อมโยงข้อมูลให้ถูกต้อง เพราะถ้าผู้บริหารขาดพื้นฐานด้านบัญชี หรือข้อมูลการเงินกับการผลิตไม่เชื่อมโยงกัน อาจส่งผลต่อความแม่นยำในการวางกลยุทธ์ และอาจนำไปสู่การตั้งราคาขายโดยไม่คิดถึงต้นทุนแฝงได้”

โปรแกรม SAP B1 มีจุดเด่นที่ช่วยลดความซ้ำซ้อนในการทำงานและยังมีความยืดหยุ่นสูงในการลงทุน โดยมีตัวเลือกการใช้งานและระดับราคาที่หลากหลาย เช่น “Pro กับ Limited” ทำให้องค์กรสามารถเลือกใช้ได้ตามงบประมาณและความต้องการใช้งานจริง นอกจากนี้โปรแกรมยังมาพร้อมกับคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการตรวจสอบบัญชีและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนดสิทธิการเข้าถึงที่รัดกุม และบันทึกการเปลี่ยนแปลง (Audit Trail) ทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าใครเข้ามาเปลี่ยนแปลงข้อมูลและเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการตรวจสอบบัญชีและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลองค์กร

ต่อยอดสู่หลักสูตร ESG เตรียมพร้อมอนาคตยั่งยืน

ดร.อรัญญา ยังได้เปิดเผยแนวทางการพัฒนาหลักสูตรบัญชีดิจิทัลของ CIBA DPU สำหรับปี 2569 โดยมุ่งเน้นไปยังประเด็นความยั่งยืนในอนาคต ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่หลายหน่วยงานและด้านบัญชีกำลังให้ความสนใจ โดยจะเริ่มต้นจากมิติด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) ผ่านการจัดบรรยายและกิจกรรม Hackathon ในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ภายใต้ธีม “การลด Waste” เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกคิดและพัฒนาโปรเจ็กต์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากของเสียในกระบวนการผลิต และเรียนรู้วิธีนำของเสียกลับมาเป็นรายได้ให้กับธุรกิจ

“การเติบโตขององค์กรต้องใช้เทคโนโลยีหรือซอฟต์แวร์ที่รองรับการทำงานระยะยาว การเลือกลงทุนแต่ละครั้งจึงต้องพิจารณาต้นทุนและประโยชน์อย่างรอบด้าน หากธุรกิจยังอยู่ช่วงเริ่มต้น การเลือกซอฟต์แวร์ขนาดเล็กที่เหมาะสมกับงบประมาณอาจเป็นทางเลือกที่ดี แต่สิ่งสำคัญคือมองให้ไกลกว่าระบบที่ใช้งานในวันนี้ เพื่อวางรากฐานธุรกิจอย่างมั่นคง ในปีหน้าเราจึงจะจัด ESG เป็นเซสชั่นที่เน้นพื้นฐานก่อน โดยเริ่มจากเรื่องการ ลด Waste ซึ่งหมายถึงการลดของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิต แล้วตั้งคำถามว่า เราจะทำอย่างไรให้ของเสียเหล่านั้นกลับมาเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กรได้จริง”

นางสาวโสภายังกล่าวเสริมถึงความร่วมมือระหว่าง CIBA DPU และ PRARAM 3 ALL SOFTWARE SYSTEM จำกัด เกิดจากความเห็นตรงกันว่านักศึกษาบัญชี DPU มีความสามารถและความอดทนสูง โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองที่ได้มาให้ความรู้ เพื่อให้นักศึกษาได้ใช้งานโปรแกรมเหมือนบริษัทตรวจสอบบัญชีขนาดใหญ่ (Big 4) พร้อมทั้งสร้างพื้นที่ให้ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันพัฒนาทักษะเชิงดิจิทัลและนวัตกรรมในสายงานบัญชีอย่างต่อเนื่อง

ดร.อรัญญา กล่าวปิดท้ายด้วยว่า ความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคเอกชนในลักษณะนี้ คือรากฐานสำคัญในการเตรียมบัณฑิตให้พร้อมสู่โลกการทำงาน และเชื่อมั่นว่าบัณฑิตบัญชีดิจิทัลของ CIBA DPU จะเป็นบุคลากรคุณภาพ ที่พร้อมนำเทคโนโลยีและวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนไปขับเคลื่อนวงการบัญชีไทยให้ก้าวหน้า และสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.