บุกต่างจังหวัดสไตล์ LINE MAN กรณีศึกษา ‘นครพนม’ เมืองดาวรุ่งริมโขง
GH News November 18, 2025 10:40 AM

การแข่งขันในธุรกิจ “ฟู้ดดีลิเวอรี่” ไม่ได้วัดกันที่โปรโมชั่น จำนวนออร์เดอร์ ฐานผู้ใช้ ยอดคำสั่งซื้อต่อบิล และการให้บริการที่รวดเร็วเท่านั้น แต่ยังแข่งกันที่การขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมทั้งประเทศ เพื่อชิงกำลังซื้อในพื้นที่ที่มองไม่เห็น และชิงความได้เปรียบในตลาดที่ยังมีช่องว่างให้เติบโต

เพราะกรุงเทพฯ ไม่ใช่ทั้งหมดของประเทศไทย

“ไลน์แมน” (LINE MAN) ขยายตลาดไปยัง 77 จังหวัดมาแล้วระยะหนึ่ง มีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมกว่า 300 อำเภอ จาก 800 อำเภอทั่วประเทศ

น่าสนใจว่าการทำตลาดต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ ในแบบฉบับของ “ไลน์แมน” แตกต่างกันอย่างไร ?

ต่างจังหวัดแข่งขันไม่รุนแรง

“อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์” รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ LINE MAN Wongnai กล่าวว่า การขยายตลาดไปยังต่างจังหวัด หรือการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เน้นสร้างความร่วมมือกับเครือข่าย YEC หรือกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่กลับมาพัฒนาบ้านเกิดให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตยิ่งขึ้น

อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์

ปัจจุบันไลน์แมนขยายพื้นที่ให้บริการครอบคลุม อ.เมือง ของทุกจังหวัดแล้ว ซึ่งในบางจังหวัดเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ทำให้การแข่งขันในต่างจังหวัดไม่รุนแรงเท่ากับในกรุงเทพฯ

“เมื่อก่อนมีฟู้ดแพนด้าอีกรายที่ทำตลาดในต่างจังหวัดเต็มที่ แต่พอเขาถอนตัวไป บางพื้นที่จึงเหลือแค่เรา เช่น ใน อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ที่เคยมีฟู้ดแพนด้าให้บริการเจ้าเดียว ปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เราก็เข้าไปรับช่วงต่อ เพื่อให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นขับเคลื่อนไปได้แม้จะเป็นพื้นที่เล็กมาก แต่ก็มีไรเดอร์เกือบ 100 คน และร้านอาหารหลายร้อยร้าน”

ความท้าทายตลาดต่างจังหวัด

“อิสริยะ” พูดถึงความท้าทายในการบุกตลาดต่างจังหวัดว่า ธรรมชาติของธุรกิจฟู้ดดีลิเวอรี่ต้องอาศัย “Density” หรือความหนาแน่นของร้านอาหาร ไรเดอร์ และผู้ใช้งาน เพื่อสร้างการเติบโต ถ้าพื้นที่มีความหนาแน่นต่ำ เช่น ร้านอาหารอยู่ไกลกันมาก หรือจำนวนผู้ใช้น้อย จะทำให้ยอดขายร้านไม่ดี ไรเดอร์ได้งานน้อย และตัดสินใจเลิกขับไปเลย

“ในกรุงเทพฯไม่มีปัญหาเรื่อง Density เพราะหนาแน่นทุกพื้นที่ แต่ในต่างจังหวัดยังจำกัดเฉพาะเขต อ.เมือง จะมีเส้นแบ่งพื้นที่อยู่ในระบบทำให้ผู้ใช้งานที่อยู่นอกเขตบริการไม่สามารถสั่งได้ แม้บางครั้งจะอยู่แค่อีกฝั่งของสะพานก็ตาม”

สำหรับเกณฑ์ในการเปิดพื้นที่ให้บริการแห่งใหม่ ๆ จะดูจากหลายปัจจัยประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นกำลังซื้อ จำนวนผู้ใช้ จำนวนร้าน และจำนวนไรเดอร์ ถ้าตัวเลขการรับสมัครไรเดอร์ไม่ถึงเป้า ก็ต้องชะลอการเปิดบริการในพื้นที่นั้น ๆ ไปก่อน

ขณะเดียวกัน “ระดับ” ของเมืองจะมีผลต่อความหนาแน่นในพื้นที่ เช่น หัวเมืองใหญ่ หัวเมืองเล็ก และจังหวัดท่องเที่ยวจะเป็นพื้นที่ที่ยอดขายและจำนวนออร์เดอร์เติบโตสูง เช่น นครพนม ที่มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

“ไรเดอร์” อาชีพเสริม

อีกหนึ่งความท้าทายที่สำคัญ คือการหา “ไรเดอร์” เข้ามาเติมในระบบ ซึ่งในพื้นที่ต่างจังหวัดหาไรเดอร์ยากกว่าในกรุงเทพฯมาก จึงต้องมีการจูงใจหลายรูปแบบ เช่น เพิ่มอินเซนทีฟ และใช้ระบบเพื่อนชวนเพื่อนมอบค่าหัวให้เพิ่ม เป็นต้น

“ในต่างจังหวัดเส้นแบ่งการประกอบอาชีพเบลอมาก เป็นสังคมถ้อยทีถ้อยอาศัย เชื่อมโยงกับความเป็นท้องถิ่นสูง บางคนเป็นกู้ภัย หรือสายให้ตำรวจ แล้วขับไรเดอร์ไปด้วย หรือก็มีประเภทที่ภรรยาเปิดร้านขายข้าว แล้วสามีขับรถไปส่งให้ ทำให้การประกอบอาชีพไรเดอร์ในต่างจังหวัด เหมือนส่วนเสริมที่กลมกลืนไปกับชีวิตประจำวันมากกว่า”

ปัจจุบันไลน์แมนมีไรเดอร์ประมาณ 1 แสนคน แบ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดในสัดส่วนเท่า ๆ กัน ในส่วนของโครงสร้างค่ารอบจะมีสูตรที่คำนวณโดยอ้างอิงจากค่าแรงขั้นต่ำของกระทรวงแรงงาน กำลังซื้อของแต่ละจังหวัด และระดับราคาของร้านค้า ซึ่งในกรุงเทพฯย่อมมีค่ารอบที่สูงกว่าอยู่แล้ว

“ไรเดอร์หลายคนสามารถสร้างรายได้สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำต่อวัน เช่น ภาคอีสานมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 480 บาทต่อวัน หรือบางคนที่เข้าใจระบบ และขยันวิ่งงานก็สามารถสร้างรายได้สูงถึง 3,500 บาทเลยทีเดียว”

ในอีกมิติ แพลตฟอร์มดีลิเวอรี่ไม่ได้มีบทบาทเพียงช่วยร้านอาหารขายดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างอาชีพและกระจายรายได้ในท้องถิ่น ผ่านอาชีพ “ไรเดอร์” ที่มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำจึงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้คนในพื้นที่

เจาะอินไซต์ “นครพนม”

สำหรับจังหวัดที่มีการเติบโตน่าสนใจ “อิสริยะ” บอกว่า “นครพนม” เป็นจังหวัดที่มีการเติบโตโดดเด่นที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นตัวอย่างชัดเจนของเทรนด์ “เมืองรองกำลังโต” (High Growth City) สอดคล้องกับกลยุทธ์ของไลน์แมนที่มุ่งขยายบริการเข้าถึงอำเภอรอง และพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศมากขึ้น

โดยยอดออร์เดอร์ในนครพนมเติบโตเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเติบโตของยอดออร์เดอร์ (GMV) สูงถึง 16% เมื่อเทียบกับเฉลี่ยภาคอีสานที่ 14% จำนวนออร์เดอร์เติบโต 12% เฉลี่ยภาคอีสาน 10% รวมถึงจำนวนผู้ใช้ยังเติบโต 11% เฉลี่ยภาคอีสาน 5% สะท้อนถึงพฤติกรรมการใช้บริการดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคท้องถิ่น

ส่วนร้านยอดนิยมบนไลน์แมนใน จ.นครพนม ได้แก่ ร้านไก่จ๋า ร้านส้มตำใบเตย ตำแซ่บ ครัวโพธิ์ศรี ตำตุ๊ปุ๊ สาขานครพนม และพรเทพ อาหารเช้า เป็นต้น

“ในภาคอีสานยังมีเมืองรองที่เติบโตดีมากอีกหลายเมือง เช่น สุรินทร์ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมุกดาหาร รวมถึงอำเภอขนาดเล็กที่เราเข้าไปให้บริการแล้ว เช่น ด่านซ้าย (เลย), ขุขันธ์ (ศรีสะเกษ), บรบือ (มหาสารคาม) และธวัชบุรี (ร้อยเอ็ด) เป็นต้น”

ศักยภาพ “นครพนม”

ด้าน “ชนนท์ กุลตั้งวัฒนา” ประธาน YEC นครพนม เสริมว่า นครพนมเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจและการค้าชายแดนสูงมาก ด้วยที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ จากการเป็นประตูการค้าสำคัญเชื่อมไทยกับ สปป.ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 กลายเป็นเส้นทางหลักในการขนส่ง และส่งออกผลไม้ไทยไปจีน รวมถึงสินค้าเกษตร และสินค้าแปรรูปอื่น ๆ

ชนนท์ กุลตั้งวัฒนา
ชนนท์ กุลตั้งวัฒนา

ปัจจุบันมูลค่าการค้าชายแดนของนครพนมสูงกว่า 120,000 ล้านบาท และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เมื่อโครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนมแล้วเสร็จในปี 2571 จะยิ่งเสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งด้านต้นทุนและเวลาในการขนส่งสินค้า

ขณะเดียวกัน นครพนมยังมีจุดแข็งด้านการท่องเที่ยว และวัฒนธรรม ด้วยภูมิทัศน์ริมแม่น้ำโขงที่ยาวกว่า 100 กิโลเมตร เป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนตลอดปี ทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสายศรัทธา มีพระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงพระธาตุประจำวันเกิดต่าง ๆ ที่เป็นจุดหมายของผู้คนทั่วประเทศ

อีกทั้งมีแลนด์มาร์กสำคัญอย่างพญาศรีสัตตนาคราช ถ้ำนาคีนาคา และแลนด์มาร์กใหม่ล่าสุด “ชิงช้าสวรรค์ Mekong River Eye” สูง 50 เมตร ที่จะเปิดบริการในปีนี้ ช่วยยกระดับประสบการณ์ท่องเที่ยวริมโขงของนครพนมให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

“ไม่กี่ปีที่ผ่านมา นครพนมได้เปลี่ยนจากเมืองผ่าน มาเป็นเมืองพักอย่างเต็มตัว นักท่องเที่ยวตัดสินใจพักค้างคืนเพื่อท่องเที่ยว และสัมผัสบรรยากาศริมโขงได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้เศรษฐกิจในพื้นที่เติบโตขึ้นชัดเจน ยิ่งช่วงเทศกาลงานไหลเรือไฟ หรือวันหยุดยาว ต้องรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และประสบปัญหาห้องพักไม่เพียงพอ”

พลิกเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยี

“ชนนท์” บอกด้วยว่า หลังโควิด-19 “เทคโนโลยี” มีบทบาทสำคัญกับผู้ประกอบการในท้องถิ่นมาก เพราะใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการขยายฐานลูกค้า ยกระดับธุรกิจ และบริหารจัดการหลังบ้านได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขายผ่านแอปดีลิเวอรี่ ที่ช่วยให้ร้านค้าที่ทำเลไม่ดีค้าขายได้ รวมถึงการจองห้องพักออนไลน์ และการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย ช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยแข่งขันกับรายใหญ่ได้อย่างเท่าเทียม และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ผู้บริหาร LINE MAN Wongnai ทิ้งท้ายด้วยว่า ไลน์แมนยังคงสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารผ่านการจัดกิจกรรมและแคมเปญต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย เพิ่มการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ และสร้างความคึกคักให้กับร้านอาหารในแต่ละพื้นที่ ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตได้จริง

เจาะอินไซต์ดีลิเวอรี่ ‘อีสาน’

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ “อีสาน” เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีปริมาณการใช้บริการ “ฟู้ดดีลิเวอรี่” เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขึ้นแท่นตลาดดาวรุ่งที่มีการเติบโตน่าจับตา

จากข้อมูลของ LINE MAN Wongnai ระบุว่า เมนูยอดนิยมของคนอีสาน ได้แก่ ส้มตำ โดยเฉพาะตำป่าและตำปูปลาร้า ตามมาด้วยตำลาว ข้าวมันไก่ และข้าวผัดหมู โดยช่วงเวลาที่มีการสั่งอาหารมากที่สุด คือ 11.00–14.00 น.

ส่วนเครื่องดื่มยอดฮิต ได้แก่ อเมริกาโน่ และมัทฉะ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง รวมถึงมีแบล็กคอฟฟี่ ชาเขียวนม เอสเพรสโซ่เย็น ชาไทย และช็อกโกแลตที่ติดอันดับด้วย

ขณะที่ประเภทอาหารที่เติบโตเร็วในปีนี้ ได้แก่ เพียวมัทฉะ สตรอว์เบอรี่ซันเดย์ พรีเมี่ยมมัทฉะลาเต้ รามยอนเผ็ดเกาหลี ไก่เกาหลี และขนมปังเกลือ (Shio Pan) สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคในภูมิภาคเริ่มเปิดรับเมนูใหม่ ๆ ที่มีความหลากหลายมากขึ้น

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.