สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ผนึกพลังชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคเหนือ จำกัด และสหกรณ์โคนมในจังหวัดเชียงใหม่ 9 แห่ง เปิดตัวแคมเปญ “Drink Milk, Save Farmers” ดื่มนมไทย ช่วยเกษตรกรไทย บรรเทาวิกฤตน้ำนมล้นตลาด เร่งระบายผลผลิตส่วนเกินจำนวน 28.8 ตันต่อวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ว่า สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคเหนือ จำกัด และสหกรณ์โคนมในจังหวัดเชียงใหม่ 9 แห่ง ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญระดับชาติ “Drink Milk, Save Farmers” ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จังหวัดเชียงใหม่

โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรณรงค์และส่งเสริมให้ประชาชนหันมาบริโภคนมโคและผลิตภัณฑ์จากนมโคที่ผลิตภายในประเทศให้มากขึ้น เพื่อเร่งบรรเทาปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาดที่กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเป็นอยู่ของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ

นายวิเชียร สันกาวี ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคเหนือ จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์น้ำนมดิบล้นตลาดในปัจจุบันถือเป็นวิกฤตเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำนมดิบสำคัญของประเทศ ปัญหาดังกล่าวเกิดจากการผลิตส่วนเกินที่ไม่สามารถระบายเข้าสู่ตลาดได้ทัน จำนวนราว 28.8 ตันต่อวัน ทำให้เกษตรกรต้องประสบกับภาวะขาดทุนอย่างหนัก ขณะที่ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรเพิ่มสูงขึ้นถึง 18 บาทต่อกิโลกรัม

ทั้งนี้ ภาวะน้ำนมโคล้นตลาดเป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยมีปัจจัยสำคัญคือ 1.เศรษฐกิจที่ชะลอตัว 2.ดีมานด์การบริโภคลดลงอย่างมาก และ 3.ปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ทำให้หลายบริษัทไม่สามารถส่งออกน้ำนมโคได้ คาดว่าไม่ต่ำกว่า 80 ตันต่อวัน

นายวิเชียรกล่าวต่อว่า ปัญหาดังกล่าวไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรรายย่อยเท่านั้น แต่ยังสร้างความเสียหายต่อมูลค่าผลผลิตน้ำนมดิบโดยรวมของภาคเหนือเป็นจำนวนมาก โดยมูลค่าน้ำนมดิบในภาคเหนือ มีมูลค่ามากกว่า 2,284 ล้านบาทต่อปี

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการไม่สามารถระบายผลผลิตส่วนเกิน 28.8 ตันต่อวันได้ อาจสูงถึงมากกว่า 600,000 บาทต่อวัน หรือมากกว่า 20 ล้านบาทต่อเดือน หรือมากกว่า 240 ล้านบาทต่อปี

“ผลกระทบจากน้ำนมล้นตลาดทำให้รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของเกษตรกรลดลงอย่างมาก เกษตรกรต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ในขณะที่ราคาน้ำนมดิบกลับต่ำลง แคมเปญ ‘Drink Milk Save Farmers’ นี้จึงเป็นความหวังครั้งสำคัญที่สุดของเรา”

นายวิเชียรกล่าวว่า แคมเปญ “Drink Milk Save Farmers” มุ่งเน้นการสร้างความตระหนักรู้ถึงสถานการณ์ของเกษตรกร พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดการบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายเชิงปริมาณที่จะเพิ่มอัตราการบริโภคนมโคของคนไทยในช่วงระยะเวลาแคมเปญให้สูงขึ้น คาดว่าในเชิงปริมาณจะช่วยระบายผลผลิตส่วนเกินได้ราว 50%

นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า นอกจากการรณรงค์ระยะสั้นแล้ว ภาครัฐยังได้เน้นย้ำถึงมาตรการระยะยาวเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับอุตสาหกรรมนมโค โดยเฉพาะการบริหารจัดการโครงการนมโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และการปรับแผนการผลิตของเกษตรกรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดอย่างยั่งยืน

จึงขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือร่วมสนับสนุนแคมเปญ “Drink Milk Save Farmers” เพื่อแสดงพลังความรักและความช่วยเหลือต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทย

นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กลยุทธ์หลักของแคมเปญ จะประสานงานกับผู้ประกอบการโรงงานนมและสหกรณ์โคนมทั่วประเทศให้เพิ่มกำลังการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรในอัตราที่เหมาะสม พร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่าง ๆ ตลอดจนร่วมมือกับภาคเอกชนในการกระจายผลิตภัณฑ์นมสู่ช่องทางตลาดใหม่ ๆ เพื่อดูดซับน้ำนมส่วนเกินให้มากที่สุด และช่วยเหลือเกษตรกรให้พยุงมูลค่ารายได้กลับคืนมา

โดยปัจจุบันชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคเหนือจำกัด มีสมาชิกทั้งหมด 16 สหกรณ์ จากเชียงใหม่ 9 สหกรณ์, ลำพูน 4 สหกรณ์, ลำปาง 1 สหกรณ์ และเชียงราย 2 สหกรณ์ และในวันนี้ เริ่มต้นจากสหกรณ์โคนมทั้ง 9 สหกรณ์ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากทางจังหวัด

โดยมีพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่, สหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมขับเคลื่อน และในช่วง 2 เดือนคือ พฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคมนี้ ได้รับการสนับสนุนสถานที่ออกบูธประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งจำหน่ายนม จากทางศูนย์การค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ต เชียงใหม่, บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า เชียงใหม่, ริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ต, ศูนย์การค้าเมญ่าไลฟ์สไตล์ชอปปิ้ง เซ็นเตอร์

อีกทั้งวันนี้ยังมีการออกบูธจำหน่ายนมจากสหกรณ์โคนม ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนม, การสาธิตการทำอาหาร, ขนมจากนมโค พร้อมสูตร และวิธีการทำ

นายศุภมิตรกล่าวต่อว่า สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ขอเชิญทุกท่านร่วมมือกันรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนบริโภคนมโคภายในประเทศ กระจายนมคุณภาพของจังหวัดเชียงใหม่ ของภาคเหนือ ไปยังผู้ประกอบการโรงแรม และร้านอาหาร ตลอดจนคาเฟ่ นอกจากนี้ ขอเชิญชวนหน่วยงานราชการใช้นมในการจัดเบรกงานประชุม พัฒนาฟาร์มโคนมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น ฟาร์ม Windmill อำเภอแม่ออน และขอช่วยกันผลักดันรณรงค์ในการมอบนมเป็นของขวัญปีใหม่ที่จะถึงนี้