ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารธุรกิจชี้ว่าอนาคตของ AI ขึ้นอยู่กับ “การกำกับดูแลอย่างรับผิดชอบ” ควบคู่กับ “ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี”
อู๋ ตง หัวหน้าวิศวกรสำนักงานบริหารไซเบอร์สเปซของจีน กล่าวในการประชุม World Internet Conference ที่มณฑลเจ้อเจียงว่า “AI ได้กลายเป็นแนวโน้มที่ไม่อาจย้อนกลับ เปลี่ยนวิธีการผลิต การใช้ชีวิต และการบริหารอย่างลึกซึ้ง จีนจะเดินหน้าพัฒนา AI ต่อไปในช่วงแผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 15 โดยเน้นการวิจัยพื้นฐาน เทคโนโลยีหลัก การเติบโตเชิงอุตสาหกรรม และการขยายการใช้งานในสถานการณ์จริง”
เขาย้ำว่า “นวัตกรรมต้องเดินคู่กับความรับผิดชอบ” โดยต้องมีระบบกำกับดูแลหรือหลักธรรมาภิบาลที่ดี คุณภาพข้อมูลที่เชื่อถือได้ และบุคลากรเชี่ยวชาญรองรับ
ประเด็นความปลอดภัยของ AI กลายเป็นหัวใจสำคัญ ลู่ เหว่ย รองประธานสมาคมความมั่นคงไซเบอร์ของจีน ระบุว่า “ความปลอดภัยของ AI คือเส้นเลือดใหญ่ของการพัฒนา”
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเมื่อ AI เคลื่อนจากโลกดิจิทัลสู่โลกจริง ความเสี่ยงยิ่งซับซ้อน ทั้งด้านเทคนิค จริยธรรม และความเป็นส่วนตัว จีนออกกรอบกำกับดูแลความปลอดภัย AI 2.0 เพื่อขยับสู่การกำกับเชิงรุก เน้นความโปร่งใสและการปกป้องข้อมูล โดยย้ำว่า “ความปลอดภัยคือฐานของนวัตกรรม”
รายงานล่าสุดชี้ว่า AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตถึง 12% ลดเวลาพัฒนายาลงครึ่งหนึ่ง และยกระดับการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ระบุว่า AI ความปลอดภัยคือสมรภูมิใหม่ของเศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมเสนอโมเดล “AI + ความปลอดภัย” เพื่อใช้ AI ป้องกัน AI เอง
ผู้แทนจากต่างประเทศ ชี้ว่าการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลไม่อาจย้อนกลับได้ เฉกเช่นเดียวกับวิวัฒนาการทางชีววิทยา เขาย้ำว่า “กลยุทธ์ต้องมาก่อนเทคโนโลยี” พร้อมสนับสนุนให้ประเทศต่างๆ เสริมสร้าง “อธิปไตยทางดิจิทัลที่สร้างขึ้นบนรากฐานความไว้วางใจ ความยืดหยุ่น และความร่วมมือ”
ที่มา People’s Daily Online