สาวเจ้าของร้านหมูกระทะผวา เงินกู้นอกระบบข่มขู่ทวงหนี้ไม่เลิก ทั้งที่ใช้หนี้-ใช้ดอกหมดแล้วนับล้าน
ข่าวสด November 20, 2025 09:22 AM

สาวเจ้าของร้านหมูกระทะ ร้องกองปราบ ถูกนายทุนเงินกู้นอกระบบส่งลูกน้องข่มขู่ทวงหนี้ไม่เลิก แม้ใช้หนี้ใช้ดอกหมดแล้วรวมกว่าล้านบาท หวั่นไม่ปลอดภัย และ ไม่ได้รับความเป็นธรรม

วันที่ 18 พ.ย. 2568 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธมนันท์ แตงทิม หรือจ่าคิงส์ สะพานใหม่ พร้อมด้วย น.ส.จี (นามสมมติ) อายุ 36 ปี พร้อมแฟนหนุ่มเจ้าของร้านหมูกระทะแห่งหนึ่ง ย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เนื่องจากถูกเจ้าหนี้นอกระบบส่งคนตามข่มขู่คุกคาม ทั้งที่ใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ยไปจนครบหมดแล้วร่วมล้านกว่าบาท

น.ส.จี กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ไปกู้เงินจากนายทุนเงินกู้นอกระบบรายหนึ่งจำนวน 600,000 บาท พร้อมข้อตกลงยอมจ่ายดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 20 ซึ่งปัจจุบันได้ชดใช้คืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไปหมดแล้วตั้งแต่เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 1 ล้านบาท

แต่ภายหลังจากชำระหนี้สินพร้อมดอกเบี้ยครบแล้ว ปรากฎว่ากลับยังมีกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งเป็นลูกน้องของเจ้าหนี้ หน้าเดิมๆ จำนวน 10-15 คน มาทวงหนี้ต่อเช่นเดิม โดยนำหลักฐานการกู้ยืมเงินฉบับเดิมที่ตนได้ชำระครบถ้วนไปแล้ว มาอ้างว่าตนได้ไปกู้ยืมเงินเพิ่ม และไม่ยอมชำระหนี้

นายทุนเงินกู้นอกระบบส่งลูกน้องข่มขู่ทวงหนี้

พร้อมข่มขู่คุกคาม ตนและสามีในรูปแบบต่างๆ นานา อาธิ ข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย ปล่อยลมยางรถยนต์ โดยจะเข้ามาที่ร้านถึงวันละ 4-5 ครั้ง หากวันใดที่ไม่พบตนหรือสามี ก็จะหันไปลงกับลูกน้องที่ร้านแทน ทำให้ตอนนี้ตนรู้สึกหวาดระแวงและเครียดอย่างหนัก จนถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ

น.ส.จี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจ สภ.ปากเกร็ด แล้ว แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งเพียงว่า หากเกิดเหตุการณ์คุกคามให้รีบโทรแจ้ง 191 ทันที ด้วยเหตุนี้ ตนจึงตัดสินใจเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อหวังให้มีการเร่งรัดคดีและเข้าช่วยเหลือคุ้มครองความปลอดภัยโดยเร็วที่สุด

ด้าน อ.มานพ สีเหลือ อาจารย์สอนด้านบัญชี กล่าวว่า การทวงซ้ำซ้อนแม้จ่ายครบ การกระทำของลูกน้องในการทวงหนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของเจ้าหนี้ตัวจริง แม้จะจ่ายครบแล้ว การทวงหนี้ซ้ำถือว่าผิด พ.ร.บ. การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 และทำให้ลูกหนี้เสียหาย

การเรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายและคุกคาม อัตราดอกเบี้ย 20% ต่อเดือน (240% ต่อปี) ผิดกฎหมายชัดเจน เพราะกฎหมายกำหนดสูงสุดเพียง 15% ต่อปี ข้อตกลงที่เกินกว่านี้ถือเป็น โมฆะ ทั้งนี้การคุกคามเป็นความผิด การทำให้ลูกหนี้ไม่เป็นอันทำงานถือเป็นการคุกคามและข่มขู่ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ทวงหนี้ฯ โดยตรง

นอกจากนี้การทวงหนี้ผิดกฎหมาย ฝ่าฝืน พ.ร.บ. การทวงหนี้ การทวงหนี้ มากกว่า 1 ครั้งต่อวัน และการ เข้าไปในเคหสถาน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. การทวงถามหนี้ฯ ส่วนการทำลายทรัพย์สิน (ตามกล้องวงจรปิด) เข้าข่ายความผิดฐาน ทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งลูกหนี้มีหลักฐานความผิดของเจ้าหนี้อย่างชัดเจน ทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ยเกินกฎหมายและวิธีการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมายร้ายแรง ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีได้ครบถ้วน

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.