จากกระแสของความนิยมในการชมการแสดงโขนมาเป็นมหรสพอันเป็นศิลปะประจำชาติให้ก้าวออกสู่นานาชาติมากขึ้น ปรากฏชัดก็คือ การจัดการประกวดมิสยูนิเวร์สครั้งที่ 74 ประจำปี 2025 ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ จึงได้เห็นผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวร์สไทยในชุดประจำชาติเป็นยักษ์ตนหนึ่งชื่อ พญาสุวรรณรากษา ที่ได้มีการอธิบายว่าเป็นผู้พิทักษ์สุวรรณภูมิ
คงไม่ถกเถียงโต้แย้งว่า สวยหรือไม่สวย อลังการหรือไม่อลังการ แต่ขอเขียนถึงก็คือ ความเหมาะสมของการเลือกเอาชุดนี้ว่าเป็นชุดประจำชาติ ซึ่งจริงๆ ชุดที่แต่งนี้เรียกว่า ชุดแฟนซี ที่มักออกแบบให้สะดุดตาใส่กันในงานรื่นเริง
การที่ให้ชื่อชุดประกวดนี้ว่าเป็นชุดของพญาสุวรรณรากษา ที่อธิบายว่าเป็นผู้พิทักษ์สุวรรณภูมินั้น ขอให้ข้อสังเกตว่า คำว่า รากษา ในพจนานุกรมไทยหรือในคำภีร์ทางศาสนาใด ไม่มีความหมาย หมายถึงใคร เป็นอะไร ทั้งในพจนานุกรมไทย ไม่เคยปรากฏชื่อและหน้าที่อะไรในรามเกียรติ์และในไตรภูมิกถา ซึ่งเป็นวรรณกรรมที่แสดงถึงโครงสร้างในการปกครองของสังคมในชาติที่ปรากฏในสุวรรณภูมิ (เอเซียตะวันออกเฉียงใต้)
มีแต่คำว่า รากษส แปลว่า ยักษ์ร้าย ที่มีนิสัยดุร้าย ชอบกินมนุษย์และสัตว์ และมักปรากฏตัวเป็นยักษ์ (ยักษ์หรือมารเป็นเทพชั้นต่ำที่สถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นจาตุรชิตมหาราช)
สรุปก็คือ ด้วยความไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่พยายามทำความเข้าใจผู้ให้นามชุดนี้ว่า พญาสุวรรณรากษา คือการจะสร้างเทพองค์ใหม่ที่มีหน้าที่ปกป้องประเทศเพิ่มขึ้นจากเทพผู้พิทักษ์ในไตรภูมิกถาที่มีหน้าที่รักษาโลก แต่ไปใช้ยักษ์ดุร้ายมาเป็นผู้ปกป้องประเทศ
น่าเป็นห่วงที่พยายามสร้างความเชื่อในความหวาดกลัวเกิดขึ้นในสังคม แม้ดูจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ขอบอกเล่าว่า นี่คือความน่าตกใจของสังคมไทยที่หาที่พึ่งมิได้แล้ว จะเอาความดุร้ายมาเป็นที่เชื่อถือ