‘สถาพร พานิชรักษาพงศ์’ ปลื้ม! GMMTV คว้ารางวัล “การทูตสาธารณะ” ประจำปี 2568 ตั้งเป้าพาคอนเทนต์ไทย สร้างความสุขคนทั่วโลก
ล่าสุดวันที่ 2 ธ.ค. “สถาพร พานิชรักษาพงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GMMTV นำทีมผู้บริหาร และทัพนักแสดงจาก “GMMTV” ร่วมรับรางวัล “การทูตสาธารณะ” ประจำปี 2568 ที่ห้องวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา

หลังรับรางวัลได้ให้สัมภาษณ์เผยว่ารู้สึกทั้งดีใจ ภาคภูมิใจ และเป็นเกียรติอย่างมากกับรางวัลที่ได้รับ พร้อมย้ำว่าเป้าหมายหลักของ GMMTV คือการสร้างคอนเทนต์ที่ทำให้ผู้ชมมีความสุข ซึ่งปัจจุบันขยายฐานผู้ชมไปทั่วโลก จึงมุ่งผลิตผลงานที่เข้าถึงคนทุกชาติ พร้อมสอดแทรกเอกลักษณ์ความเป็นไทย
ยอมรับว่าในช่วงแรกไม่คิดว่าจะไปไกลระดับนี้ แม้จะเริ่มเห็นสัญญาณตั้งแต่พาศิลปินไปจัดแฟนมีตติ้งในจีน ก่อนที่กระแสจะค่อยๆ ขยายตัวไปทั่วเอเชียและทั่วโลก ทุกวันนี้แม้จะมีแรงกดดันจากการแข่งขันสูง แต่รางวัลนี้ช่วยเพิ่มกำลังใจว่าสิ่งที่ทำมีคุณค่าและสร้างประโยชน์ให้ประเทศ พร้อมยืนยันจะเดินหน้าพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ค้นหาของใหม่ให้คนดูไม่เบื่อ และสร้างความสุขให้แฟนๆ ทั่วโลกต่อไป

ความรู้สึกต่อการมารับรางวัลวันนี้? “เป็นไปทุกอย่างครับ ไม่ว่าจะดีใจ ภาคภูมิใจ แล้วก็เป็นเกียรติมากๆ ที่ได้รางวัลที่ทรงคุณค่าแบบนี้ พวกเรา GMMTV ทุกคนก็ดีใจกับทุกคนครับ”
เป้าหมายในการวางคอนเทนต์ต่างๆ? “จริงๆ เป้าหมายเราคือทำคอนเทนต์ให้น่าจะถูกใจคนดู แต่ตอนนี้คนดูของเราอยู่ทั่วโลก เพราะฉะนั้นจะมีอีกเป้าหมายหนึ่ง คือต้องทำให้คนทั้งโลกมีความสุขในการดูคอนเทนต์เรา และก็มีความสุขในการติดตามศิลปินของเราด้วย”
คอนเทนต์ของ GMMTV มักจะสอดแทรกเอกลักษณ์ของความเป็นไทยอยู่เสมอ? “คิดว่านี่จะเป็นเหมือนหน้าที่หนึ่งที่เราทำมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ พอเรายิ่งรู้ว่าเรามีแฟนคลับอยู่ทั่วโลก เราคิดว่าอันนี้น่าจะเป็นอีกหน้าที่หนึ่ง อีกเป้าหมายหนึ่งเลยครับที่พวกเราต้องช่วยกันทำ และก็ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราสอดแทรกเข้าไป ซึ่งจะต้องสอดแทรกเข้าไปให้มันพอดีด้วยครับ ที่จะทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทย เพราะฉะนั้นตรงนี้เราคิดว่าคงจะต้องรักษาหน้าที่ตรงนี้ไปเรื่อยๆ ให้ดีที่สุด”

ตลอด 30 ปีเคยคิดไหมว่าจะตีตลาดต่างประเทศได้ขนาดนี้? “ถ้าเอาตรงๆ ก็ไม่ได้คิดครับว่าจะมาได้ขนาดนี้ แต่ช่วงแรกๆ ที่เริ่มทำ มันก็จะเห็นสัญญาณอะไรหลายๆ อย่าง อย่างที่บอกว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เอา คริส-สิงโต ไปแฟนมีตที่เมืองจีน เราก็เริ่มรู้แล้วว่าเราสามารถที่จะทำงานตรงนี้ให้คนต่างประเทศรักเราได้ ก็น่าจะขยายไปได้มากขึ้นหลังจากนั้นเราก็พยายามทำทุกอย่างจนมาถึงวันนี้”
ตอนนั้นมองแล้วว่าสามารถที่จะไปได้? “ตอนที่ไปยอมรับว่ายังมองไม่ออกจริงๆ ครับ แต่พอไปถึง ไปหางโจว ก็รู้เลยว่าเรามีพลังพอสมควรที่จะดึงดูดคนทั่วโลกให้มารักเราได้”
ตอนนี้มันไปอีกซีกโลกหนึ่งแล้ว? “ก็จากเอเชียมันก็ขยายไปทั่วก็น่าจะครอบคลุมทุกทวีปแล้ว ความรู้สึกคือดีใจแน่ๆ แล้วก็น้องๆ ทุกคนก็น่าจะภูมิใจมากที่คนจากทุกๆ ทวีป ซึ่งมันเป็นเรื่องก็น่ามหัศจรรย์มากๆ ที่สามารถที่จะเข้าใจและรักในคอนเทนต์และน้องๆ นักแสดงของเราครับ”
GMMTV ก็ต้องปรับตัวมาเรื่อยๆ? “เราเชื่อว่าอะไรที่ทำอยู่มันต้องทำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปนะครับ ต้องหาอะไรใหม่ๆ มาเสมอครับ แล้วก็ต้องบุกเบิกอะไรที่คิดว่าจะทำให้คนยิ่งชอบและยิ่งรักเรามากขึ้นไปอีก”
การได้รางวัลในครั้งนี้จะทำให้มีแรงกดดันในการทำงานไหม? “จริงๆ ได้รางวัลนี้หรือยังไม่ได้รางวัลเราก็กดดันพอสมควรอยู่แล้วนะครับ เพราะว่าเราต้องแข่งกับทุกๆ อย่างที่ต้องคิดและนำเสนอใหม่ๆ แต่การได้รางวัลนี้ก็จะทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้นครับว่าสิ่งที่เราทำออกไปมีคนเห็น และก็รู้ว่าเรากำลังทำในสิ่งที่มีคุณค่ากับบ้านเราก็คือเมืองไทย”
GMMTV นำหนึ่งก้าวเสมอ? “อันนี้ก็เราไม่สามารถเคลมเองได้ครับ”

แต่ก็มีคนมองว่าซีรีส์วายก็ทำมาก่อน ซีรีส์ยูริก็ทำมาก่อน? “เอาเป็นว่าก็เป็นผู้บุกเบิกเหล่านี้ เรารู้ว่าเราทำแล้ว เราก็พยายามพัฒนาและทำต่อไปให้ดีที่สุด และก็ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ”
ย้อนกลับไปทำไมถึงคิดว่าคอนเทนต์เราจะไปไกลได้มากขนาดนี้? “ก็ต้องยอมรับว่าตอนแรกที่ทำเราไม่ได้คิดว่าเราจะมาไกลขนาดนี้ครับ แล้วแค่มองว่าเราอยากทำอะไรที่มันใหม่และก็แตกต่าง ซึ่งปรากฏว่าสิ่งที่ทำออกไปดันมีคนชอบๆ และดันไม่ใช่คนไทยด้วย ก็คือคนต่างชาติด้วย มันก็เลยทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันน่าจะไปได้ไกลอีกนะครับ”
ซึ่งตอนนั้นเสี่ยงเหมือนกัน? “เสี่ยงครับ เพราะตอนที่ทำตอนนั้นยอมรับว่าไม่ประสบความสำเร็จทางด้านการเงินอ่ะครับ ตอนนั้นก็ไม่ได้จริงๆ แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากๆ เลยครับ”
มองจาก VCR เมื่อกี้คือพันล้าน? “อันนั้นคือเขาประมาณการว่านับรายได้เข้าประเทศได้ประมาณนั้น ซึ่งจริงๆ แล้วเมื่อกี้คุยกันท่านฑูต ท่านฑูตบอกว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่พวกเราทำกัน รายได้เข้าประเทศสามารถพูดได้ว่าไม่สามารถประเมินค่าได้ เพราะมันคิดเป็นตัวเงินไม่ได้เลย มันเป็นเรื่องของความรู้สึก ความรัก ความชอบ ซึ่งมันจะต่อยอดไปไม่รู้จบ”

ส่งต่อความคิดสู่น้องๆ ในค่ายยังไง? “จริงๆ เราคุยกันอยู่ตลอดเวลาว่าความเป็นคนไทยนี่แหละที่ทำให้มันยึดกุมหัวใจของคนทั่วโลกได้ครับ ผมยังเชื่อว่าจริงๆ การทำคอนเทนต์ การทำซีรีส์ ทำละคร ทำได้หมดทุกๆ คน ทุกๆ ชาติครับ แต่ความเป็นคนไทยเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเหมือนเราได้ ผมเชื่อว่าอันนี้เป็นจุดที่เราชนะครับ”
ก้าวต่อไปของ GMMTV? “ก็ยังคงทำงานนี้ให้ดีที่สุดครับ และก็พัฒนาทุกๆ ด้านไปเรื่อยๆ นะครับ ก็พยายามจะหาอะไรใหม่ๆ มาทำให้คนดูเราไม่เบื่อ และยังติดตามเราไปได้เรื่อยๆ และก็รักน้องๆ ศิลปินของเราไปเรื่อยๆ นั้นเอง”
แล้วเป้าหมายตอนนี้คือเรื่องอะไร? “เรามีหลายเรื่องนะครับที่ตอนนี้มีเรื่องใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย มีทั้งที่เปิดเผยได้แล้ว และยังเปิดเผยไม่ได้นะครับ ที่เปิดได้แล้วก็เช่นเราคงทำซีรีส์ใหม่ๆ มากขึ้น แล้วก็ทำให้คนมีความสุขและเป้าหมายเราจะทำทุกๆ อย่างคนทั่วโลกมีความสุขนะครับ เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ไม่ว่าจะมีคอนเทนต์หรือมีโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ออกมา เราก็จะมุ่งมั่นทำให้ทุกคนมีความสุขให้ได้ ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไป จะมีอะไรเด็ดๆ ของมาอีกเยอะแน่ๆ ครับ”
