ชมพู่ น้ำตาซึม เสพข่าวน้ำท่วมภาคใต้จนหน่วงเผยเหตุผลช่วย 1 ล้าน หลังเห็นเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ ขอส่งกำลังใจให้ผู้เดือดร้อน ได้เห็นน้ำใจและพลังของคนไทย
ด้าน ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ได้บริจาคเงินจำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ผ่านมูลนิธิองค์กรทำดี ของ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เพื่อสนับสนุนการทำงานของอาสาและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และ ผู้ที่ประสบเหตุการณ์ในครั้งนี้

นอกจากนี้ ด้านสามีอย่าง น็อต วิศรุต ได้บริจาคในนาม บริษัท เรเซอร์การไฟฟ้า ( ประเทศไทย ) จำกัด มอบโคมไฟโซล่าเซลล์ จำนวน 50 โคม และ โคมไฟฉุกเฉิน จำนวน 50 โคม ให้กับทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องภาคใต้ชาวหาดใหญ่อีกด้วย
ล่าสุด ชมพู่ มาร่วมงาน เปิด Shima Park แลนด์มาร์กสุดคาวาอี้แห่งใหม่จากญี่ปุ่น ณ SHIMA Park ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 5 และได้เปิดใจถึงเหตุผลที่ร่วมบริจาคครั้งนี้
บริจาคช่วยน้ำท่วมไปด้วย เห็นภาพข่าวแล้วเป็นยังไงบ้าง?
“ชมว่าก็เหมือนทุกคนค่ะ นอนเสพข่าวแล้วรู้สึกว่าเราทำอะไรไม่ได้จริงๆ ไม่รู้จะช่วยยังไง เราก็ติดตามอยู่ประมาณนึง แล้วชมเชื่อว่าหลายคนก็คงเป็นเหมือนกัน คือดูจนถึงจุดที่ต้องพักเสพ เพราะมันมีวันที่สถานการณ์ที่พีค”
บางคนก็เปรียบว่าเหมือนเป็นมหันตภัยสึนามิสอง?
“มันก็เป็นเรื่องของภัยธรรมชาติ ธรรมชาติก็ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่แล้ว”
ตอนที่โอนเงินให้พี่บุ๋ม ได้ฝากกำลังใจอะไรไปไหม?
“คือก็ไม่ได้พูดอะไรเยอะนะคะ ถามตรงๆ เลยว่าขาดเหลืออะไร เพราะเราเสพข่าวหลายช่องทาง เลยอยากให้ความช่วยเหลือของเรามันไปแก้ปัญหาได้ตรงจุด เวลาเราทำบุญ เราก็อยากรู้เหมือนเวลาทำบุญกับวัด ว่าวัดจะเอาเงินไปสร้างศาลา สร้างโบสถ์ ทำหลังคาหรืออะไรแบบนั้น เราเลยถามแกว่าถ้ามีอะไรที่ขาดเหลือสำหรับอาสา ก็น่าจะเป็นเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนช่วงฟื้นฟูก็เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที จริงๆ คนไทยช่วยเหลือกันเยอะนะคะ เราก็ติดตามอยู่ตลอดว่าความช่วยเหลือมันไปถึงตรงไหนบ้าง แต่วันที่ทุกคนน่าจะรู้สึกร่วมกันมากที่สุด น่าจะเป็นวันที่รู้ว่ามีคนติดอยู่ข้างใน และกำลังรอที่จะออกมา ตอนนั้นมันมีหลายภาคส่วน ทั้งทีมทำถุงยังชีพ อาหาร ความช่วยเหลือต่างๆ ก็หลั่งไหลเข้ามา แต่สำหรับชม ความรู้สึกในตอนนั้นคืออยากมีส่วนร่วมในการพาคนออกมา คือมันมาจากใจจริง ๆ เหมือนเราดูหนัง แต่คราวนี้มันคือชีวิตจริง (ก็มีน้ำตาร่วงเลย?) ก็อย่างที่บอกว่าต้องหยุดดู ต้องพัก แต่บางทีเราไม่ได้ตั้งใจจะเสพข่าว มันก็เด้งขึ้นมาให้เห็นตลอด”

หลายคนก็ชื่นชมชมว่าทุกวิกฤตเราจะยื่นมือช่วยตลอด?
“ชมว่าจริงๆ คือเราทำอย่างอื่นไม่ได้ค่ะ ยังคุยกับพี่บุ๋มเลยว่า พี่บุ๋มบอกไม่ต้องลงพื้นที่ เราก็บอกว่าใช่ค่ะ ชมไม่ลง เพราะเรารู้ว่าเรามีครอบครัว มีภาระ มีพันธะหน้าที่ของเรา ก็เลยอยากซัพพอร์ตคนที่เขาเสียสละลงพื้นที่ อย่างพี่บุ๋มเองเขาก็มีครอบครัวเหมือนกัน เราก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในการซัพพอร์ต ก็เลยบอกว่าไม่ลง แต่ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกได้เลย ส่วนเรื่องที่คุณน็อตบริจาคหลอดไฟ ก็มีคนติดต่อแสดงความจำนงมาพอดี”
หลังจากเห็นว่าน้ำเริ่มลดลงแล้ว รู้สึกสบายใจขึ้นไหม?
“ก็คงบอกได้ว่าส่วนที่มันหนักที่สุดมันผ่านไปแล้ว แต่ก็ยังเห็นใจทุกคนที่ได้รับผลกระทบ เพราะทุกคนก็ต้องเดินหน้าต่อ แม้ว่าจะมีความสูญเสียเกิดขึ้นก็ตาม มันก็ยังมีเรื่องที่ต้องไปต่อกันอีกเยอะ ก็หนักพอสมควรค่ะ”
อยากส่งกำลังใจให้คนที่ประสบภัยหน่อยไหม?
“ชมไม่ค่อยเก่งเรื่องให้กำลังใจนะคะ เอาเป็นว่าพวกเราที่นั่งเสพข่าวอยู่ยังรู้สึกหนักอึ้ง แม้ว่าเราจะรู้ว่าเราไม่มีวันเข้าใจเขาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเราไม่ได้อยู่ตรงนั้นจริงๆ แต่แค่เราอยู่ตรงนี้ เรายังรู้สึกหน่วงในใจ เพราะฉะนั้นก็พอจะนึกได้ว่าคนที่สูญเสียมันต้องหนักกว่าเราไม่รู้กี่เท่า ก็ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ จริงๆ ประเทศไทยเราเจอวิกฤตหลายครั้งนะคะ เวลาไม่มีอะไรเราก็มีตีกันบ้าง แต่พอเกิดเหตุการณ์ใหญ่ๆ แบบนี้ มันก็จะเห็นน้ำใจและพลังของคนไทยเสมอค่ะ”