อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ลงพื้นที่ติดตามงาน เยียวยาผู้ประสบอุทกภัย พบ เจ้าหน้าที่มีเพียง 10 คน คอมพิวเตอร์ที่เทศบาลใช้คีย์ข้อมูล เป็นคนละระบบ

วันที่ 4 ธ.ค.2568 นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยของเทศบาลเมืองควนลัง และเทศบาลนครหาดใหญ่ เพื่อตรวจสอบขั้นตอนการคีย์ข้อมูลผู้ประสบภัยเข้าระบบเงินช่วยเหลือ หลังพบว่าพื้นที่สงขลามีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 5 แสนราย และเฉพาะเทศบาลนครหาดใหญ่กว่า 2 แสนราย

อธิบดีฯ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการรับข้อมูลจากประชาชน 2 ช่องทาง คือ การยื่นเอกสารด้วยตนเอง และการคีย์ออนไลน์โดยในส่วนของเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้ดำเนินการคีย์ข้อมูลแล้วกว่า 60,000 ราย แต่ยังพบปัญหาสำคัญในช่วงแรก คือระบบคีย์ข้อมูลมีปัญหา และจำนวนเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ

นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่เพียงประมาณ 10 คน ต้องรับภาระตั้งแต่คีย์ข้อมูล ตรวจสอบเอกสาร ไปจนถึงการอนุมัติข้อมูล จึงสั่งการให้เร่งระดมคอมพิวเตอร์และบุคลากรมาช่วยสนับสนุนด่วนที่สุด ทั้งในส่วนของงานคีย์ข้อมูลและงานตรวจสอบเอกสาร เพื่อให้การช่วยเหลือเดินหน้าได้เร็วขึ้น

ขณะเดียวกัน ยังพบปัญหาสำคัญในกรณีผู้ที่ยื่นข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ โดยข้อมูลที่กรอกเข้ามาบางส่วนผิดพลาด เช่นชื่อ–นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือที่อยู่ ทำให้ระบบต้องปฏิเสธข้อมูลและส่งกลับมาตรวจสอบใหม่ ส่งผลให้ขั้นตอนล่าช้า

อีกหนึ่งอุปสรรคคือ คอมพิวเตอร์ที่เทศบาลใช้คีย์ข้อมูล เป็นคนละระบบ กับคอมพิวเตอร์ทะเบียนราษฎร ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดตรวจสอบข้อมูลได้ในเครื่องเดียว ส่วนหนึ่งเนื่องจากทะเบียนราษฎรของเทศบาลนครหาดใหญ่ถูกน้ำท่วมทั้งหมด

อธิบดีฯ ระบุว่า เบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญจากกรมการปกครองจะเข้ามาดำเนินการ เดินสายแลน เพื่อเชื่อมระบบทะเบียนราษฎรเข้ากับคอมพิวเตอร์ที่ใช้คีย์ข้อมูล เพื่อให้สามารถเปิดดูข้อมูลประชาชนได้ทันทีในเครื่องเดียว ระบบจะรวดเร็วขึ้นอย่างมากและลดความผิดพลาดของข้อมูล

นอกจากนี้ อธิบดีกรมการปกครองยังได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาอำนวยความสะดวกที่หน้าเทศบาลนครหาดใหญ่ ทั้งการปริ๊นบัตรประชาชน ออกสำเนาทะเบียนบ้าน และจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ประชาชนโดยไม่ต้องเดินทางไปที่อื่น ช่วยลดภาระและย่นเวลาในการตรวจสอบเอกสาร พร้อมทั้งย้ำว่าการลงทะเบียนยังคงเปิดรับเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตาม การล่าช้าส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เอกสารของประชาชนไม่ถูกต้อง อยากขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ตรวจสอบข้อมูลของตัวเองให้ถูกต้อง โดยเฉพาะ ชื่อ–นามสกุล เลขบัตรประชาชน 13 หลัก และที่อยู่ หากข้อมูลถูกต้องครบถ้วน ระบบจะดำเนินการอนุมัติได้รวดเร็วมากขึ้น และช่วยให้ทุกคนได้รับเงินเยียวยาไวขึ้น