ชายมะกันเผย อวัยวะเพศยาวไม่ถึง 3 เซนติเมตร หวังขอรับรองสถิติสั้นที่สุดในโลก ยอมรับว่าชีวิตไม่ได้ราบรื่น สั้นไม่ใช่เรื่องตลก แต่เป็นภาวะทางการแพทย์ ให้กำลังใจผู้ที่มีปัญหาเดียวกัน

ชายชาวสหรัฐอเมริกา รัฐนอร์ทแคโรไลนา รายหนึ่ง ออกมาเปิดเผยภาวะร่างกายที่พบได้ยากของตนเอง จนได้รับความสนใจจากสังคม โดยเขาระบุว่า อวัยวะเพศของตนมีความยาวเพียงประมาณ 1 นิ้ว (2.54 เซนติเมตร) ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของผู้ชายวัยผู้ใหญ่อย่างมาก และทำให้เขาตกเป็นเป้าของการล้อเลียนและการพูดเยาะเย้ยมาตลอดชีวิต

ชายผู้นี้ย้ำว่า ภาวะอวัยวะเพศสั้นไม่ใช่เรื่องตลก แต่เป็นภาวะทางการแพทย์ที่ควรได้รับการทำความเข้าใจอย่างจริงจัง พร้อมหวังว่าการเปิดเผยประสบการณ์ส่วนตัวจะช่วยให้สังคมเกิดความตระหนักและให้ความเคารพต่อความแตกต่างของร่างกายมนุษย์มากขึ้น

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะมิร์เรออร์ของสหราชอาณาจักร ชายรายนี้ชื่อว่า ไมเคิล ฟิลลิปส์ โดยเขาอธิบายว่า ค่าเฉลี่ยความยาวอวัยวะเพศของผู้ชายวัยผู้ใหญ่ในสภาพไม่แข็งตัวอยู่ที่ประมาณ 3.61 นิ้ว (9.17 เซนติเมตร) และเมื่อแข็งตัวอยู่ที่ราว 5.16 นิ้ว (13.1 เซนติเมตร) ซึ่งขนาดของเขานั้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอย่างเห็นได้ชัด

ฟิลลิปส์เล่าว่า ในช่วงวัยรุ่น เขาเคยคาดหวังว่าร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ ซึ่งเขายอมรับว่า ในอดีตเคยถูกล้อเลียนเรื่องขนาดอวัยวะเพศในความสัมพันธ์ใกล้ชิด ส่งผลให้เกิดความกดดันทางจิตใจอย่างรุนแรง ทั้งในเรื่องความรักและการออกเดต

จนบางช่วงต้องหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมและการสร้างความสัมพันธ์ ประสบการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อความภาคภูมิใจในตนเอง และทำให้เขาเกิดความไม่มั่นใจเป็นเวลานาน และในที่สุดก็ตัดสินใจไปพบแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ในเดือนเมษายน 2024

อย่างไรก็ตาม ฟิลลิปส์กล่าวว่า ปัจจุบันเขาเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความจริงด้วยท่าทีที่เปิดกว้างและมีอารมณ์ขันมากขึ้น พร้อมใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางเล่าเรื่องราวของตนเอง เพื่อให้กำลังใจผู้ที่มีปัญหาในลักษณะเดียวกัน และช่วยให้สังคมเข้าใจว่า ภาวะอวัยวะเพศสั้นเป็นประเด็นทางการแพทย์ ไม่ใช่สิ่งที่ควรถูกนำมาล้อเลียนผู้อื่น

เขายังกล่าวแบบกึ่งขำขันว่า อนาคตอาจพิจารณายื่นขอรับการบันทึกในกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ในฐานะอวัยวะเพศที่สั้นที่สุดในโลก โดยมองว่า หากสามารถกระตุ้นให้เกิดการพูดคุยและความเข้าใจในประเด็นนี้ได้มากขึ้น และทำให้สังคมหันมาให้ความสำคัญกับความแตกต่างทางร่างกายและภาวะทางสุขภาพ ก็ถือเป็นเรื่องที่มีคุณค่าและมีความหมาย

“จนกระทั่งผมพูดเล่นๆ ว่าผมอาจจะเป็นเจ้าของสถิติโลกกินเนสส์ ผมถึงได้รู้ว่าจริงๆ แล้วผมอาจจะมีของที่เล็กที่สุดในโลก ถ้าผมทำได้ ผมจะทำ เพราะผมคิดว่ามันจะช่วยสร้างความตระหนักรู้ได้มากขึ้น ในสื่อต่างๆ แทบไม่มีการนำเสนอเรื่องขนาดอวัยวะเพศชายเล็ก และแทบไม่มีการกล่าวถึงภาวะอวัยวะเพศชายเล็กผิดปกติว่าเป็นภาวะทางการแพทย์ที่แท้จริง หรือเป็นเพียงคำล้อเลียน”