| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
สัปดาห์เดียว เราคนไทย เผชิญ “เกมส์” หนัก-หนัก ต่อเนื่อง
เริ่มจาก “วอร์เกมส์” อันเป็นคำประกาศ ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี
ที่อ้างมติของที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
ว่าจะมี “การปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณี”
แม้จะไม่ถึงขั้น “ประกาศสงคราม” อย่างเป็นทางการ
แต่การ “ปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณี” ก็รุนแรงไม่ต่างจากการประกาศสงครามเท่าใดนัก
ยิ่งหากจับคำพูดของ เสธ.ปูด้วง พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก เพื่อนสนิทร่วมรุ่นเตรียมทหาร 26 ของ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ว่าจะทำให้ “กัมพูชาสิ้นสภาพขีดความสามารถทางการทหารไปอีกยาวนาน เพื่อความปลอดภัยของลูกหลานของเรา”
ปฏิบัติการทางทหารในครั้งนี้ จึง “เต็มรูปแบบ”
ปรากฏว่า มีเสียงสนับสนุนจากความรู้สึก “ชาตินิยม” ของคนไทยอย่างท่วมท้น
ท่วมท้นที่อยากให้ปัญหากัมพูชาจบในรุ่นของเรา
ถือเป็นความฮึกห้าวเหินหาว ที่ไม่เปิดพื้นที่ให้ใครมา “คัดค้าน” ด้วยอาจถูกชี้หน้าว่า ไม่รักชาติ
แต่กระนั้นคงต้องมีพื้นที่ “เผื่อใจ” ไว้ด้วย
คือแม้จะมองในเชิงบวกเราอาจทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพได้ แต่ถามว่าปัญหาจะจบหรือไม่
อันนี้ชวนให้คิดกันมากๆ เพราะต้องไม่ลืมว่าขณะที่เราบดขยี้เพื่อนบ้านนั้น
เราก็ได้ปลูกสร้าง “ความเกลียดชัง-ความเป็นอริ” ในใจของเราและคนกัมพูชาอย่างร้าวลึก ในทุกด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม
และภาวะนี้คงจะยากที่จะถอนออกไปไม่รู้ว่าจะกี่ชั่วอายุคน
เราคงต้องจมกับความเกลียด ความเป็นอริ อีกนาน
นี่พูดในเชิงบวก ว่าเราชนะหรือได้เปรียบนะ
แต่ถ้าเป็นตรงข้าม หากไม่อาจทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพ หรือถูกมหาอำนาจ-นานาชาติ ไม่ได้มีท่าทีเอออวยกับเรา
ซึ่ง โดนัลด์ ทรัมป์ ก็แสดงให้เห็นชัดเจนกรณี “อุบัติเหตุระเบิดข้างถนน”
เราคนไทยจึงต้องเผื่อใจ เพื่อรับสภาพ “ขมขื่น” นี้เอาไว้ด้วย
เช่นเดียวกับการแข่งขันซีเกมส์
ที่ตอนนี้ อยู่ในสภาพ “เซ็งเกมส์”
เซ็ง ทั้งสืบเนื่องจาก วอร์เกมส์ ที่ทำให้กีฬาที่ควรเป็นเรื่องของการสร้างสรรค์ การสร้างความสามัคคี ของอาเซียน
แต่กลายเป็นสนามแห่งความร้าวฉาน
อย่างน้อยการถอนตัวออกจากซีเกมส์กลางคันของทีมนักกีฬากัมพูชาก็บอกเช่นนั้น
ภาวะ “เซ็งเกมส์” ไม่ได้สะท้อนปัญหาเพียงเท่านั้น
หากแต่ลามไปถึงภาวะเซ็งอันเกิดจากความไม่พร้อมของเราเองจนทำให้ซีเกมส์มีปัญหายุบยับ
แน่นอน ที่ปฏิเสธไม่ได้ คือล้วนสืบเนื่องจาก “ปัญหาการเมือง” ที่ยืดเยื้อ พันลึก กัดกินเข้าไปในทุกวงการ
กัดกินจนทำให้เราเป็นประเทศป่วย อ่อนแอ เสื่อมโทรม ในทุกเรื่องในทุกวงการ แม้กระทั่งกีฬาก็ไม่เว้น
เราคนไทยจึงถูกฉุดลากเข้าไปสู่ “แซดเกมส์” ที่จมอยู่กับภาวะ SAD-เศร้า ในทุกหย่อมหญ้า
ที่ชัดๆ ปัญหาเฉพาะหน้า ก็คือเหยื่ออุทกภัย เหยื่อสงคราม รวมแล้วหลายแสนคน
ยังไม่ต้องพูดสิ่งที่เราต้องเผชิญกับปัญหา “วิกฤต” อีกนานาที่ฝังลึกอยู่ในประเทศนี้
โดยเฉพาะเรื่อง “การเมือง” ล่าสุด เราเข้า สู่ “แบดเกมส์” คือการยุบสภา
แม้จะอธิบายสวยหรูว่าเป็นการคืนอำนาจให้ประชาชน
แต่จริงหรือไม่ เราก็รู้อยู่เต็มอก และยังตอกย้ำ การเมืองแบด-แบดจะยังอยู่กับเราอีกนาน
แค่หวังจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างกฎกติกาใหม่ ก็ไม่ได้รับอนุญาต
นี่จึงทำให้เราออกจากหล่มวิกฤตไม่ได้
วนเวียนอยู่ใน วอร์เกมส์-เซ็งเกมส์-แซดเกม และแบดเกมส์ อย่าง จำเจ ซ้ำซาก
ไม่มีความหวังกับประเทศนี้เลยจริงๆ
สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร