นายกฯ อีสปอร์ต ยืนยัน เตรียมฟ้องแพ่ง 'โตเกียว' ทำวงการเสื่อมเสียชื่อเสียง
GH News December 18, 2025 12:10 PM

นายสันติ โหลทอง นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังจบรายการโหนกระแส ถึงการตรวจสอบว่า จำเป็นต้องขยายผลทางเทคนิคต่อ และให้ฝ่ายเทคนิคประสานไปยังบริษัทโทรคมนาคม เพื่อตรวจสอบว่า IP Address ว่าชี้ไปที่บุคคลใด และใช้เครือข่ายของค่ายใด และเป็นผู้ล็อกอินจริงหรือไม่


โดยข้อมูลคาดว่าจะได้ในช่วงเย็นวันนี้ เพราะต้องรอบริษัทโทรคมนาคมส่งรายละเอียดกลับมา หลังจากที่ทางสมาคมได้ส่งเลข IP และอีเมลให้ผู้ให้บริการไปตั้งแต่เวลาประมาณ 10.30 น. ของวันนี้ เบื้องต้นพบว่ามีตัวละครที่เกี่ยวข้องกับ IP อย่างน้อย 2 ราย ซึ่งก็อาจจะมีมากกว่านั้นก็ได้ แต่หากสุดท้ายพบว่าไม่เกินสองราย หรือดีที่สุดคือไม่มีใครเกี่ยวข้องเลย สมาคมก็จะรู้สึกโล่งใจอย่างมาก


ทั้งนี้ เมื่อถามว่าในรายการ มีการคาดว่า ร่างทรงที่เล่นแทน เป็นนักกีฬาอยู่ในลีกของสมาคม หรือ เป็นนักกีฬา semi Pro นั้น นายกสมาคม บอกว่า เป็นหากตรวจสอบแล้วพบว่า IP ดังกล่าวตรงกับนักกีฬาที่อยู่ในลีกของสมาคมจริง ก็จะส่งผลต่อการพิจารณาทางวินัยทันที ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร ซึ่งยังต้องใช้คำว่า “คาดว่า” เนื่องจากยังไม่ได้รับข้อมูล IP สุดท้าย หากได้ข้อมูลครบถ้วนก็จะสามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้


นายสันติ ยอมรับว่า ในทางเทคนิคอาจมีการใช้ VPN หรือรายละเอียดเชิงลึกอื่นๆ อีกมาก แต่เบื้องต้นสมาคมจะพิจารณาจากข้อมูลที่ปรากฏก่อน และหากมีข้อมูลใหม่เข้ามาก็จะมีการชี้แจงเพิ่มเติม ซึ่งตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เข้าสู่วันที่ 3 จะเห็นได้ว่าข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมเข้ามาทุกวัน


ทั้งนี้ ตนเองอยากฝากบอกน้องโตเกียวว่า ให้ออกมายอมรับสารภาพผิด ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างยิ่ง เพราะนักกีฬาอีก 5 คนจะพ้นจากข้อกล่าวหาทันที และออกมาขอโทษเพื่อนๆ ชาวไทย และทุกคน แต่หาก “น้องโตเกียว” ยืนยันว่าตนเองไม่ผิด และตรวจสอบว่าไม่ผิด ตนเองก็จะขอโทษโตเกียวต่อหน้าสื่อมวลชน รวมถึงจะยกตำแหน่งนายกสมาคมให้ด้วย ซึ่งการที่ตนออกมายังยากกว่าการที่โตเกียวออกมาขอโทษเสียอีก พร้อมกันนี้ระบุว่าหากมีบุคคลอื่นกระทำ ก็จำเป็นต้องรอหลักฐานในขั้นต่อไป เพราะหากข้อมูลชัดเจนแล้วพบว่ามีใครเกี่ยวข้องอีก ก็สามารถตรวจสอบเส้นทางการสื่อสารได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อผ่านโทรศัพท์หรือช่องทางอื่น


ส่วนการดำเนินการทางกฎหมายนั้น นายสันติ ย้ำว่า ขณะนี้สมาคมถือเป็นผู้เสียหาย และประเทศไทยคือผู้เสียหายรายใหญ่ รู้สึกอับอาย และผิดหวังที่ตัวแทนประเทศไทยและคนไทย ไปสร้างเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ต่อให้โกงแล้วได้เหรียญมาก็เป็นเพียง “ตราบาป” ที่จะติดตัวไปตลอดชีวิต ไม่มีคุณค่าใดๆ แต่หากใช้ฝีมือและสมองคว้าเหรียญมาได้ นั่นคือความภูมิใจที่แท้จริง ซึ่งผู้เสียหายที่สุดในเรื่องนี้คือประเทศไทย ในส่วนของการแจ้งความดำเนินคดี จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางคู่ขนาน โดยสมาคมได้ปรึกษานิติกรของการกีฬาแห่งประเทศไทย ถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินคดีทางกฎหมาย ทั้งการฟ้องผู้กระทำผิดโดยตรง หรือในฐานะที่ตนเป็นนายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ก็สามารถฟ้องร้องต่อได้ โดยจะเป็นการฟ้องทางแพ่งก่อน เนื่องจากการแข่งขันกีฬาต้องใช้งบประมาณจากภาษีจำนวนมาก ทั้งการจัดสนาม การต้อนรับ และค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมมูลค่าหลายล้านบาท โดยขณะนี้ยังต้องรอฝ่ายกฎหมายพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้ง



สำหรับประเด็นว่าการกระทำแบบนี้ เพื่อมุ่งหวังเอาเหรียญ และรางวัล จะเข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่นั้น นายสันติ มองว่ายังไม่ถึงขั้นเข้าข่ายฉ้อโกง เนื่องจากขั้นตอนแรกจะมีการยึดเหรียญก่อน และจะไม่ให้สิทธิ์ใดๆ ทั้งการเข้ารับเหรียญจากนายกรัฐมนตรี หรือรับเงินอัดฉีดรางวัล รวมถึงจะไม่ปล่อยให้เกิดกรณีรับเงินไปแล้วต้องเรียกคืนภายหลัง เพราะจะไม่ให้สิทธิ์แม้แต่สิ่งเดียว


ส่วนกรณีที่ “โตเกียว” ระบุว่า หากโกงก็ชนะไปแล้ว นายกสมาคม มองว่า คนโกงแล้วแพ้ก็มีเช่นกัน และการโกงแล้วแพ้ยิ่งน่าอับอาย สำหรับการแข่งขันอีสปอร์ตนั้น มีกฎชัดเจนว่าไม่สามารถโหลดแอปพลิเคชันอื่น หรือใช้โปรแกรมใดๆ แทรกแซงได้ หากบริสุทธิ์ใจก็ไม่จำเป็นต้องลบอะไรออก และควรออกมาขอโทษประเทศไทยและเพื่อนนักกีฬาทุกคน



ด้าน โค้ชอั๋น ซึ่งเป็น Head Coach และเป็นบุคคลที่ไปรับโตเกียวออกจากโรงพยาบาล เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.) บอกว่า ตอนแรกอาการของโตเกียวก็คล้ายกับอาการแพนิก แต่ในใบรับรองแพทย์ ไม่ได้ระบุว่าโตเกียวมีอาการแพนิค เหมือนที่แจ้งไว้ พร้อมระบุว่าก่อนหน้านี้โค้ชป้อม เคยมาปรึกษากับตนเองแล้วว่าในทีมมีความสงสัยในตัวโตเกียว ซึ่งในครั้งนั้นตนไม่ได้ปักใจเชื่อว่าโตเกียวจะทำแบบนั้น เพราะสุดท้ายแล้วต้องพิสูจน์ด้วยหลักฐานก่อน ดังนั้นจึงเดินหน้าไปแข่งขันกันต่อเพื่อทีมชาติ ซึ่งในครั้งนั้นโตเกียวยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้ทำ



แต่หลังจากที่ได้คุยกับโตเกียวเมื่อวาน โค้ชอั๋น บอกว่าน้องรู้สึกแย่ และรู้สึกผิดอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยอมรับผิดในเรื่องโหลดโปรแกรมมาลงในโทรศัพท์ รวมถึงการชูนิ้วกลาง แต่ตนเองยังไม่ได้ถามรายละเอียด เพราะน้องยังอาการไม่ค่อยดี

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.