“สุชัชวีร์”ขออาสาเป็นนายกฯที่ใช่ของประเทศไทย ลั่นหาก “ไทยก้าวใหม่” ได้เป็นรัฐบาล ขอเปลี่ยนแปลงประเทศ 3 ข้อ “มียุทธศาสตร์การลงทุนใหม่-โครงสร้างพื้นฐานใหม่ – สร้างทุนมนุษย์ใหม่
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 19 ธ.ค.2568 ที่โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ พรรคไทยก้าวใหม่ จัดงาน “ก้าวใหม่สู่อนาคตประเทศไทย Thailand Vision 2026” เพื่อสื่อสารทิศทาง นโยบาย และแนวคิดในการร่วมกันสร้างอนาคตประเทศไทย ก้าวใหม่ให้ไทยสตรอง ทั้งนี้งานดังกล่าวเป็นการระดมทุนให้กับพรรคไทยก้าวใหม่ด้วย
โดยนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคไทยก้าวใหม่ ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ กล่าวว่าขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้กับตนและพรรคฯ ตนจะไม่พูดเรื่องการเมืองเก่าๆ การเมืองเดิม ๆ เพราะเชื่อว่าทุกคนเบื่อ แต่วันนี้จะมาพูดเรื่องอนาคตของประเทศไทยและเวลาของประเทศที่เรารอไม่ได้ เชื่อว่าทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุดของมนุษยชาติคือ “เวลา” ซึ่งมีค่ายิ่งกว่าเงิน และสิ่งใด ๆ ไม่สามารถที่จะซื้อได้แม้จะมีเงิน เวลาไม่สามารถย้อนหลังกลับสู่อดีตได้

“วันนี้จึงเป็นวันสำคัญที่จะชี้อนาคตของประเทศไทย จังหวะเวลาของประเทศมาไม่ได้บ่อยครั้ง อาจจะมาแค่ครั้งเดียว หากพลาดโอกาสนั้นแล้วอาจจะไม่มีเวลากลับไปแก้ไขได้เลย วันนี้เวลาของประเทศไทยมาถึงแล้ว เราพลาดไม่ได้เพราะหากพลาดอาจจะไม่มีคำขอโทษที่เพียงพอให้ลูกหลานคนไทย”นายสุชัชวีร์ กล่าว
นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า หากย้อนไปเมื่อ 70 ปีก่อน ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำในเอเชียไม่แพ้เกาหลีใต้และไต้หวัน เขาบอกว่าประเทศไทยจะเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย แต่แล้ววันนี้ไม่ได้เป็น กลับกลายเป็นประเทศเวียดนาม เมื่อ 20 ปีก่อนเวียดนามมี GDP แค่ 1 ใน 5 หรือ 20% ของไทย จากนั้นเวียดนามก็เติบโตอย่างรวดเร็ว วันนี้ทุกคนเห็นแล้วว่าเวียดนามดึงดูดทุกทรัพยากรและคนเก่งในอัตราที่รวดเร็วกว่าที่ประเทศไทยจะทำมาหลายทศวรรษ ไม่เกิน 4 ปี ประเทศเวียดนามจะแซงประเทศไทยโดยสมบูรณ์แบบ หากวันนี้เราไม่คิดจะก้าวใหม่ ประเทศไทยจะถอยหลังไปถึงไหน สภาอุตสาหกรรมประเทศไทย และ IMF คาดการณ์ว่าปี ค.ศ.2030 ไม่เพียงเวียดนาม แต่ฟิลิปปินส์จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจเติบโตกว่าไทย และอีก 20 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะต้องกลับมาแข่งกับกัมพูชา ซึ่งตนรับไม่ได้
นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า เชื่อว่าคนไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้เศรษฐกิจไทย GDP เติบโตเพียง 2% ปีหน้า GDP ไม่มีทางถึง 2% ทำให้เงินลงทุนและความเชื่อมั่นไหลออก คนเก่งไปเรียนต่างประเทศไม่กลับประเทศไทย สุดท้ายโอกาสของประเทศไทยจะหายไปโดยสิ้นเชิง ขณะที่การเติบโตของตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยเปรียบเทียบกับ NASDAQ ของสหรัฐฯ ประเทศไทยยังสาละวนอยู่กับโครงสร้างธุรกิจ อุตสาหกรรม พัฒนาศักยภาพคนแบบตกยุค ซึ่งเด็กไทยฉลาดไม่แพ้เด็กชาติในโลก แต่เราติดกับดักการศึกษาที่ล้าหลัง เรามีแรงงานที่มีฝีมือแต่สุดท้ายแล้วทักษะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ไม่มีใครต่อ
ยอดให้สามารถสู้กับเศรษฐกิจของโลกใหม่ได้ เรามีผู้ประกอบการ SMEs มากที่สุดในโลก 3.3 ล้านราย ทุกคนสู้เกินร้อย แต่สุดท้ายไปไม่ถึงไหนเพราะไม่มีโอกาส ไม่มีช่องว่างให้โตในระบบของประเทศไทย ทั้งที่เรามีคนเก่งมากมายแต่กลับจมปลักอยู่กับเศรษฐกิจแบบเดิม ทำให้เขาถูกบีบไม่สามารถเติบโตเบ่งบานได้

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า วันนี้เรารอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว ประเทศไทยถึงจุดที่ต้องเข้าสู่ยุค ”Quantum Leap“ คือการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย เป็นหนทางรอดเดียว ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด เป็นหัวใจของวิสัยทัศน์ ”Thailand Vision 2026“ หากเรายังสาละวนอยู่กับอุตสาหกรรมเก่า เราจะไม่มีทางแข่งขันได้ วันนี้จะต้องมีการพูดถึง ”Quantum Economy“ ที่จะทำให้ประเทศไทยเติบโตมี GDP 5% ต่อเนื่อง ซึ่งจะต้องอาศัยปัจจัยสำคัญ 3 ข้อ ได้แก่
1.มียุทธศาสตร์การลงทุนใหม่ ซึ่งต้องอาศัย AI, Data และ Platform เพื่อให้เกิด Quantum Economy อย่างไร้ขีดจำกัด หากเรามีโอกาสเป็นรัฐบาลจะต้องมีการลงทุนในสมองของประเทศ อาทิ National Data Platform พร้อมกับพัฒนาระบบ AI และ Cloud เผื่อให้ได้ข้อมูลทางเศรษฐกิจ ภัยพิบัติ และความมั่นคงปลอดภัย นอกจากนี้จะต้องผลักดันให้เกิดการลงทุนในพลังงานสะอาด พลังงานแสงอาทิตย์ทุกคนต้องเข้าถึงได้ด้วยตนเอง โดยรัฐจะต้องลงทุนในระบบจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ สนับสนุนให้เอกชนในการลงทุนแพลตฟอร์ม เพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาดโดยรัฐ เพื่อให้เกิดแพลตฟอร์มต่างๆ และจะต้องเปลี่ยนจากผู้สั่งการเป็นผู้ออกแบบกติกา เพื่อให้ทุกคนได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมเป็นธรรม รวมถึงการลงทุนในอนาคตผ่านพันธบัตรโครงสร้างพื้นฐาน พันธบัตร AI สนับสนุนกองทุน Start up และ SMEs เต็มรูปแบบ
2.โครงสร้างพื้นฐานใหม่ ไทยต้องเลือกซ่อมโครงสร้างเดิมแต่ ต้องเขียนใหม่ทั้งระบบ พรรคไทยก้าวใหม่ขอเป็นพรรคการเมืองแรกที่จะสนับสนุนเทคโนโลยีอวกาศของไทยด้วยตนเอง เนื่องจากเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการลดความเสียหายจากภัยพิบัติ ประหยัดงบประมาณได้แสนล้านบาท คาดการณ์น้ำท่วม-น้ำแล้งล่วงหน้า วางแผนการระบายน้ำ รวมถึงการอพยพช่วยเหลือได้ตรงจุด เราจะเปลี่ยนชีวิตเกษตรกรอย่างสิ้นเชิงด้วยเทคโนโลยีอวกาศ การเกษตรต้องไม่ใช่การเสี่ยงดวงที่ลงท้ายด้วยหนี้สิน แต่จะต้องสร้างเงินให้เข้ากระเป๋าเกษตรกรได้ จะต้องมีการสร้างเกษตรกรที่แม่นยำเหมือนกับประเทศอิสราเอล นอกจากนี้รัฐยังจะสามารถกำหนดนโยบายได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น เพื่อแก้ปัญหาผังเมืองและการปฏิรูปที่ดิน
“พรรคไทยก้าวใหม่มุ่งเปลี่ยนโครงสร้างประเทศด้วย AI Transformation เพื่อยกระดับเศรษฐกิจ ความมั่นคง คุณภาพชีวิตของคนไทย และจัดการปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นที่เป็นปัญหาหมักหมมยาวนานที่สุด เนื่องจากข้อมูลจะเป็นหัวใจของรัฐ และ AI จะเป็นมันสมองของนโยบาย ทั้งยังสามารถป้องกันการคอร์รัปชั่นก่อนเกิดเหตุ ภายใต้รัฐบาลพรรคไทยก้าวใหม่ ข้าราชการจะโปร่งใส ไม่มีงานซ้ำซ้อน สามารถบริการประชาชนได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ ซึ่งรัฐจะต้องลงทุนในการใช้ AI ยกระดับประสิทธิภาพการบริการทางการแพทย์ ทั้งยังต้องปรับโครงสร้างต้นทุนพลังงานเพื่อเตรียมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนา AI และ Data Center ด้วย”

3.สร้างทุนมนุษย์ใหม่ รัฐบาลพรรคไทยก้าวใหม่ประกาศรีเซ็ทระบบการศึกษาไทย ทำให้เด็กไทย 100% มีทักษะดิจิทัลและ AI ภายใน 5 ปี ทุกโรงเรียนต้องสอน Coding และ AI ภาษาอังกฤษ ยกระดับอาชีวะรูปแบบใหม่ เปลี่ยนครูจากผู้สอนเป็นโค้ช นอกจากนี้พรรคไทยก้าวใหม่ยังตั้งเป้าที่จะอัพสกิวคนทำงาน 20 ล้านคน ด้วย National AI Training Platform เพราะตนเองอยากสร้างแรงงานไทยให้สู้กับสิงคโปร์ เปลี่ยนแรงงานเก่าสู่ยุค Quantum Leap ให้ได้ พร้อมดึง Talent จากทั่วโลกมาพัฒนาประเทศไทย 1 ล้านคนใน 10 ปี
”ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องมีผู้นำที่มีความรู้จริง วิสัยทัศน์ที่ใช่ ที่สามารถทำได้ ทำเป็น ถึงเวลาแล้วที่ผม หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ขออาสาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ใช่ของประเทศไทย“ นายสุชัชวีร์ กล่าว
อ่านข่าว “ยศชนัน”แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย ชวนทำโพล มติชน-เดลินิวส์ เลือกตั้ง 2569 ฟังเสียงคนไทย เลือกพรรคที่ใช่คนที่ชอบ
ร่วมทำโพล “มติชน-เดลินิวส์ โพลเลือกตั้ง 2569 ฟังเสียงคนไทย” >>> ได้ที่นี่ <<<