ค่าเงินบาทวันนี้ (19 ธ.ค. 68) เปิดตลาดแข็งค่าที่ระดับ 31.44 บาทต่อดอลลาร์ กรอบแนวรับอยู่ที่ 31.30 บาท แนวต้าน 31.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 31.44 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวาน ที่ 31.47 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเทียบสกุลเงินหลัก หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 58% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน มี.ค. จากเดิมที่ให้น้ำหนักเพียง 32.9% และคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนก.ค. เร็วกว่าเดิมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย. ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดอยู่ที่ระดับ 3.00-3.25% ในช่วงสิ้นปี 2569
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือน พ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.1% จากระดับ 3.0% ในเดือน ก.ย. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือน พ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.0% จากระดับ 3.0% ในเดือน ก.ย.
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 224,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 200,000 ราย
ยูโรอ่อนค่าลง หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ระดับ 2.00% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 2.40% ส่วนอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์อยู่ที่ระดับ 2.15%
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 5-4 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 3.75% การปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถือเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้
สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,600.49 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 676.52 ล้านบาท
กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำอยู่ที่ 31.30-31.60 บาทต่อดอลลาร์ แนะนำทยอยซื้อที่ 31.30/ขาย 31.60 บาทต่อดอลลาร์