อนุทินให้เหตุผล 3 ข้อ เลี่ยงเวทีดีเบตทั้งความมั่นคงชายแดน–ภารกิจนายกฯ และข้อจำกัดเวลา เลือกสื่อสารตรงผ่านโซเชียล เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พร้อมส่งแกนนำพรรคขึ้นเวทีแทน




ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการจับสลากเบอร์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เสร็จสิ้น ซึ่งพรรคภูมิใจไทย ได้เบอร์ 37 นั้น ต่อมา เวลา 18.20 น. พรรคภูมิใจไทยได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก ‘อนุทิน เบอร์ 37’ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงเหตุผลในการไม่ขึ้นดีเบต ว่า
“พี่น้องประชาชนที่เคารพครับ นับจากวันนี้เป็นต้นไป เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ กกต. ผมขอใช้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่สื่อสารกับพี่น้องประชาชนชาวไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคน เพื่อให้ท่านได้พิจารณานโยบาย แนวคิด และแนวทางการทำงานของผมและพรรคภูมิใจไทย ก่อนตัดสินใจลงคะแนนเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 นะครับ
เรื่องแรกที่อยากจะบอก คือ ผมขออนุญาตไม่รับเชิญไปเวทีดีเบต ด้วยเหตุผล 3 ข้อ
1. ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมมีหน้าที่ต้องบริหารสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งผมจะมีข้อจำกัด ไม่สามารถนำเสนอข้อมูลใดๆ ที่จะกระทบต่อการทำงานของกองทัพและส่วนราชการที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งอยู่เหนือกว่าประโยชน์ใดๆ
และแม้ผู้สมัครท่านอื่นๆจะไม่มีข้อจำกัดนี้ ผมก็ขอวิงวอนให้ทั้งผู้จัดรายการและผู้ร่วมเวทีดีเบตได้ช่วยกันระมัดระวังในการนำเสนอ เพื่อไม่ให้กระทบต่อขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และต่อความมั่นคงของชาติด้วยนะครับ
2. ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมยังมีหน้าที่ที่ต้องบริหารราชการจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ การตอบรับไปร่วมเวทีดีเบตหรือให้สัมภาษณ์ในรายการต่างๆ เพื่อหาเสียง อาจจะส่งผลกระทบต่องานราชการได้ หากตอบรับแล้วต้องเลื่อนเพราะมีภารกิจด่วน ก็จะกระทบต่อการดำเนินการของผู้จัดรายการได้ ผมต้องขออภัยหลายๆรายการไว้ ณ โอกาสนี้ และขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติและปรารถนาดี ในการเปิดโอกาสให้ผมได้มีพื้นที่สื่อสารกับพี่น้องประชาชนนะครับ
ในช่วงเวลาเช่นนี้ ผมต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีมากกว่าหัวหน้าพรรคการเมือง แต่พรรคภูมิใจไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับผู้จัดรายการทุกท่านด้วยการส่ง
สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ผู้เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยไปร่วมนำเสนอนโยบายในทุกโอกาสที่เป็นไปได้ครับ
3. เป็นเหตุผลส่วนตัว จากประสบการณ์ ผมไม่สบายใจกับบรรยากาศของการดีเบต ที่บ่อยครั้งจะมีการสร้างวาทกรรมโจมตีกันไปมา ประกอบกับ ผมมีข้อจำกัดส่วนตัว ไม่สามารถพูดอย่างที่ตั้งใจได้ในเวลาสั้นๆเพียง 1-3 นาที เกรงว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้
ผมเห็นว่าการนำเสนอนโยบายสาธารณะเพื่อให้พี่น้องประชาชนพิจารณาตัดสินใจไปใช้สิทธิเลือกตั้งนั้น ต้องมีเวลาทั้งผู้พูดและผู้ฟัง ผมไม่ใช่คนพูดเก่งที่จะเหมาะกับเวทีดีเบตลักษณะนี้ จึงขอใช้เวลาไปกับการทำงานให้ประชาชน และขอให้ผลการทำงานของผมได้พูดแทนผมนะครับ
ด้วยเหตุผลที่เรียนมา ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผมจึงขอใช้พื้นที่นี้เป็นช่องทางการสื่อสารหลักกับพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชน ขอให้ทุกท่านได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยน และร่วมกันเสนอแนวคิดเพื่อพัฒนาประเทศไทยของเราได้ที่นี่ทุกวันนะครับ หากมีแนวคิดที่เป็นประโยชน์และทำได้เลย ผมก็จะน้อมนำไปปฏิบัติทันที ไม่ต้องรอไว้ทำหลังเลือกตั้ง
ขอให้มั่นใจอนุทิน “พูดแล้วทำ”