ททท.อัดกิจกรรม สานต่อ Ignite Tourism
SUB_NOI September 16, 2024 04:00 PM

ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวฯเปิดเผยว่า ตั้งแต่ 1 มกราคม-8 กันยายน 2567 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาแล้วรวม 24.17 ล้านคน โดยมีนักท่องเที่ยวจีนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวน 4.89 ล้านคน รองลงมาคือ มาเลเซีย 3.36 ล้านคน และอินเดีย 1.4 ล้านคน ขณะที่ตลาดในประเทศกำลังเผชิญกับสถานการณ์ “น้ำท่วม” ในหลายพื้นที่

“ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกว่า นโยบายส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ว่าเป็นนโยบายที่ดีมาก สามารถนำไปเชื่อมต่อกับนโยบายเดิมได้ เนื่องจาก Ignite Thailand มีด้าน Ignite Tourism Thailand เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักที่พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศอยู่แล้ว โดยที่ผ่านมารัฐบาลก็ได้สานต่อผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของ Entertainment Complex การจัดอีเวนต์ระดับนานาชาติ การทำ Sport Tourism ที่จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลงรักกีฬาเข้ามาในประเทศไทย นับว่าไทยจะได้รับอานิสงส์ทั้งตลาดในและต่างประเทศ

“เรายังไม่ได้มีการเข้าพบ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ซึ่งท่านจะเข้ากระทรวง ในวันที่ 16 กันยายนนี้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการทำงานกับรัฐบาลชุดใหม่ไม่มีสะดุดแน่นอน”

สำหรับประเด็นสถานการณ์น้ำท่วมที่มีปัญหาในบางพื้นที่อยู่ในขณะนี้นั้น “ฐาปนีย์” ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์ดังกล่าวกระทบการท่องเที่ยวไม่มากนัก กล่าวคือ กระทบในบางพื้นที่เท่านั้น โดยได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นอันดับแรก ในส่วนของ ททท.จะมีการประเมินหลังสถานการณ์น้ำลดแล้วเป็น 3 ระดับ

ประกอบด้วย 1.ผู้ได้รับผลกระทบแต่พร้อมกลับมาดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวได้เลย 2.ได้รับผลกระทบและต้องมีการปรับปรุงธุรกิจสักระยะ และ 3.ได้รับผลกระทบและต้องปิดกิจการ ซึ่งถือว่ายังมีจำนวนน้อย

ขณะที่ระดับ 1 และ 2 ได้เตรียมให้ ททท.สำนักงานต่าง ๆ พิจารณาจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือนำอินฟลูเอนเซอร์ลงพื้นที่เพื่อยืนยันว่าพื้นที่นั้นไม่ได้รับผลกระทบ

ส่วนสถานประกอบการที่พร้อมให้บริการจะมีการจัดทำขายแพ็กเกจราคาพิเศษให้นักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ พร้อมยืนยันพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวหลักยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และไม่มีนักท่องเที่ยวตกค้างในพื้นที่

“ส่วนผลกระทบต่ออัตราการเข้าพัก ยังไม่มีตัวเลขที่แน่นอน เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของภาคเหนือ จึงต้องรอประเมินหลังสถานการณ์น้ำท่วมอีกครั้ง”

อย่างไรก็ตาม ในด้านเป้าหมายรายได้ภาคการท่องเที่ยวในปีนี้นั้น เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ทำให้นักท่องเที่ยวมีการระมัดระวังในเรื่องของการใช้จ่ายมากขึ้น ททท.จึงพยายามจัดกิจกรรมกระตุ้นการใช้จ่ายให้ถี่ขึ้น แม้ยอดการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่อคนต่อทริปจะลดลง แต่เมื่อเพิ่มความถี่แล้วอาจจะมีการกระจายรายได้สู่พื้นที่อื่น ๆ ให้มากขึ้น

โดยปีนี้ ททท.ตั้งเป้ารายได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศอยู่ที่ราว 1 ล้านล้านบาท ส่วนเป้าหมายรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศอยู่ที่ราว 2 ล้านล้านบาท รวมตัวเลขแล้วประมาณ 3 ล้านล้านบาท

ขณะเดียวกันจะพยายามจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้

© Copyright @2024 LIDEA. All Rights Reserved.