เมล็ดกาแฟอราบิก้าแพงสุดในรอบ 13 ปี ผลกระทบขาดแคลนโรบัสต้า
ปวริศ อำนวยไพศาล September 16, 2024 07:40 PM

การขาดแคลนเมล็ดกาแฟโรบัสต้าเนื่องจากสภาพอากาศย่ำแย่ทำผลผลิตออกน้อย ลามทำให้ราคาเมล็ดกาแฟอราบิก้าพุ่งสูงสุดในรอบ 13 ปี เนื่องจากความต้องการใช้ทดแทนสูงขึ้น 

วันที่ 16 กันยายน 2024 บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ราคากาแฟที่ผู้บริโภคดื่มที่ขั้นปลายน้ำมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีก เนื่องจากอุปทานที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ผลักให้ต้นทุนเมล็ดกาแฟอาราบิก้าพรีเมียมพุ่งสูงสุดในรอบ 13 ปี

ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) พุ่งขึ้น 2% อยู่ที่ 2.6475 ดอลลาร์ (ราว 87.88 บาท) ต่อปอนด์ในตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์นิวยอร์ก ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2011 ในปีนี้ (YTD) ราคาฟิวเจอร์เมล็กาแฟอาราบิกาเพิ่มขึ้นแล้วประมาณ 40% จากความขาดแคลนในเมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าที่มีราคาถูก ได้จุดประกายความต้องการเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าทดแทน

ราคาเมล็ดกาแฟที่สูงขึ้นมาจากความกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศที่เลวร้ายในบราซิล จากความร้อนและความแห้งแล้งที่ทำให้แนวโน้มผลผลิตลดลง ซึ่งประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่แห่งนี้กำลังจะสิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตปี 2024-2025 ทำให้ขณะนี้ ความสนใจจึงมุ่งไปยังศักยภาพของฤดูกาลหน้าแทน 

ผลกระทบจากราคากาแฟที่เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาเครื่องดื่มเฟ้อด้วยเช่นกัน เห็นได้ชัดจากการเพิ่มราคาของบริษัท เจเอ็ม สมักเกอร์ (JM Smucker) ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ โฟลเกอร์ (Folgers) และคาเฟ่ บัสเทโล่ (Café Bustelo) ที่ครองตลาดกาแฟในบ้านของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ เครือร้านอาหารเพร็ต อะ แมงเกอร์ (Pret A Manger) ก็ได้ยกเลิกโปรแกรมสมัครสมาชิกในสหราชอาณาจักรที่ให้ลูกค้าดื่มกาแฟได้มากถึง 5 แก้วต่อวัน

นอกจากราคากาแฟแล้ว ราคาเครื่องดื่มอื่น ๆ ก็เพิ่มขึ้นซ้ำเติมผู้บริโภคด้วย ทั้งราคาน้ำส้มที่สูงขึ้นเนื่องจากผลผลิตลดลง และราคาฟิวเจอร์สโกโก้ที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ต้นทุนเครื่องดื่มและของหวานที่ทำจากช็อกโกแลตสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาของสินค้าหลักอื่น ๆ เช่น ธัญพืช ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ช่วยบรรเทาเงินเฟ้อด้านอาหาร

© Copyright @2024 LIDEA. All Rights Reserved.