ผลสำรวจในสหรัฐ บริษัทขนาดใหญ่จะปรับขึ้นค่าจ้างโดยเฉลี่ย 3.9% เพื่อรักษาพนักงานเอาไว้ โดยได้รับอิทธิพลจากกฎหมายเงินเดือนโปร่งใส (pay transparency law) 

วันที่ 16 กันยายน 2024 ซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่า จากผลสำรวจของ เดอะ คอนเฟอเรนซ์บอร์ด (The Conference Board) ซึ่งทำการสำรวจผู้บริหารระดับสูง 300 รายจาก 11 อุตสาหกรรมหลัก พบว่าบรรดาบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐคาดว่าจะเพิ่มงบประมาณสำหรับปรับฐานเงินเดือนในปี 2025 โดยเฉลี่ย 3.9% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของการปรับขึ้นฐานเงินเดือน 4.4% ในปี 2023 ที่เป็นระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี แต่ยังคงสูงกว่าการปรับขึ้นฐานเงินเดือนในปี 2024 ที่เพิ่มขึ้น 3.8% 

โดยทั่วไปแล้ว การปรับขึ้นงบประมาณของฐานเงินเดือน จะถูกใช้พิจารณาทดแทนการปรับขึ้นของค่าจ้างโดยเฉลี่ย

แดน่า ปีเตอร์สัน (Dana Peterson) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของคอนเฟอร์เรนซ์บอร์ด กล่าวในแถลงการณ์ว่า “แม้อัตราการจ้างงานจะชะลอตัวลง และมีการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่คาดว่าค่าจ้างจะยังคงสูงขึ้นต่อไปจนถึงปี 2025 อุปทานแรงงานที่หดตัวลง ทำให้หลายบริษัทให้ความสำคัญกับการรักษาพนักงานไว้ ส่งผลให้เงินเดือนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่าจ้างที่แท้จริงเติบโตสูงขึ้น ท่ามกลางอัตราเงินที่เฟ้อลดลง”

แบบสำรวจจัดทำขึ้นช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน 2024 ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่มาจากบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่เกือบ 80% มีรายได้มากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 33,205 ล้านบาท) และเกือบครึ่งเป็นบริษัทที่มีพนักงานอย่างน้อย 10,000 คน

นอกจากนี้ เพื่อรักษาบุคลากรที่มีความสามารถไว้ ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากระบุว่า พวกเขาวางแผนที่จะใช้งบประมาณตลอดปีที่เพิ่มขึ้นมานี้ 39% ไปกับการเลื่อนตำแหน่ง 32% เพื่อให้ค่าจ้างพอแข่งขันในตลาดได้ 29% ปรับเพิ่มให้เท่ากับค่าจ้างขั้นต่ำสุด 18% เพื่อให้รู้ถึงความรับผิดชอบที่เปลี่ยนแปลงไป เช่นกันกับ 12% ให้รู้ถึงตำแหน่งที่เปลี่ยนไป  และ 7% ให้เป็นรางวัลแก่บุคลากรสำคัญ

คอนเฟอร์เรนซ์บอร์ดระบุไว้ในรายงานว่า กลยุทธ์การจ่ายค่าจ้างโดยรวมได้รับอิทธิพลจากกฎหมายเงินเดือนโปร่งใสฉบับใหม่ ซึ่งเน้นย้ำถึงค่าจ้างที่เป็นธรรม (Pay Equity) ต่อการทะนุบำรุงพนักงานไว้

ผู้จ่ายค่าจ้างรายใหญ่ยังกล่าวอีกว่า พวกเขาจะใช้กลยุทธ์ที่ไม่ใช่การปรับฐานเงินเดือนเพื่อเพิ่มการจ่ายค่าจ้างโดยรวม (เช่น ให้โบนัส) แต่จะไม่พึ่งโบนัสการรักษาพนักงานและโบนัสการเซ็นสัญญามากเท่าช่วงโรคระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา

จากผลสำรวจพบว่า อุตสาหกรรมที่มีแผนปรับเพิ่มโดยรวมสูงสุด มาจากผู้ตอบแบบสำรวจในกลุ่มประกันภัย ภาคพลังงาน/เกษตรกรรม และภาคโทรคมนาคม ส่วนภาคที่มีแผนปรับขึ้นเงินเดือนต่ำสุด อยู่ในภาคการค้าและบริการที่หลากหลาย

อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ทั้งหมดเป็นเพียงคาดการณ์จากผลสำรวจ และอาจแตกต่างออกไปจากการปรับขึ้นจริงที่จะเกิดในอนาคต