คนเคยมีเรื่องกันขี่ จยย.ผ่านหน้าบ้านเข้าใจว่าถูกแซวจึงขี่กลับมาจะเอาเรื่อง ถือทั้งมีดและปืน รุ่นน้อง ม.1-2 นั่งเล่นเกมส์อยู่แคร่หน้าบ้านเห็นท่าไม่ดีจึงพากันวิ่งหนีกระเจิง ถูกยิงไล่หลังเข้าท้ายทอยดับ 1 รอดไป 6 

เมื่อเวลา 19.35 น.วันที่ 19 ก.ย ร.ต.อ.ธีรวิสิฎฐ์ จินจันดา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตายอยู่ที่บ้าน หมู่ที่ 11 บ้านห้วยก้านเหลืองน้อย  ต.ปากคาด จึงไปตรวจยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิวัช วรคุตตานนท์ ผกก.พ.ต.ท.เดชชัย วรรณพฤกษ์ รอง ผกก.(สอบสวน) ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ปากคาดและหน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไลจุดปากคาด ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตนอนอยู่ลานหญ้าข้างบ้านเหตุ พบบาดแผลถูกยิงด้วยลูกกระสุนขนาด .38 มม.เข้าที่ท้ายทอยกระสุนฝังใน ทราบชื่อผู้ตาย ดช.ภูมิ อายุ 14 ปี เรียนชั้น ม.2 ร.ร.แห่งหนึ่งใน อ.ปากคาด ส่วนมือปืนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อ มด (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นร.ชั้น ม.4 ร.ร.เดียวกัน ถูกควบคุมตัวได้แล้วอยู่ระหว่างการสอบสวนรายละเอียด พร้อมกับอาวุธปืนปากกาใช้กระสุนขนาด.38 มม.จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

พ.ต.อ.ศิวัช วรคุตตานนท์ ผกก.เปิดเผยว่า เป็นเรื่องเคยทะเลาะวิวาทกันของวัยรุ่น เมื่อมาเจอกันอีกครั้งก็เลยใช้อาวุธปืนยิงกันตาย  ถูกยิงด้วยอาวุธปืนปากกา ใช้กระสุนขนาด .38 ยิงเข้าที่ท้ายทอยกระสุนฝังใน  พรุ่งนี้จะได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์เพื่อเอาหัวกระสุนออกที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลศรีนครินทร์จังหวัดขอนแก่น

จากการสอบสวนเพื่อนร่วมวงเล่นเกมส์เบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายรวมกับเพื่อนรวม 7 คน นั่งอยู่บนแคร่หน้าบ้านเกิดเหตุหมู่ 11 บ้านห้วยก้านเหลืองน้อง ขณะนั้นผู้ก่อเหตุกับเพื่อนที่นั่งซ้อนได้ขี่ จยย.ผ่านไป แล้วสักพักก็ขี่รถย้อนกลับมา หลังหยุดรถแล้วก็เดินเข้ามาหาพวกรุ่นน้องที่เล่นเกมส์กันเพลินอยู่ แล้วก็พูดขึ้นว่า “พวกมึงสิเอาเรื่องบ่” ซึ่งรุ่นน้อง 2ใน 7 คนเคยมีเรื่องกับมือปืนมาก่อน (ทั้งที่เป็นคนหมู่บ้านติดกัน คือบ้านห้วยก้านเหลือง หมู่ 12 และบ้านห้วยก้านเหลือน้อย หมู่ 11 ) จึงได้ปฏิเสธพร้อมยกมือโบกไปว่า “ บ่เอาๆ ” พูดแล้วมือยิงก็ชักปืนออกมา รุ่นน้องทั้ง 7 คนเห็นท่าไม่ดีจึงลุกขึ้นวิ่งหนีกระเจิงคนละทิศละทาง มือปืนก็ยิ่งไล่หลังไปถูกท้ายทอยผู้ตาย แต่ยังวิ่งหนีกระโดดข้ามรั้วกำแพงปูนที่ไม่สูงนักไปล้มลงขาดใจตายที่บริเวณข้างบ้านดังกล่าว จึงถูกแจ้งข้อหาเบื้องต้น ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ  จึงถูกควบคุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.