ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต ศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ ประกาศสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์สร้างสรรค์ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคใหม่

นายประวิช จรรยาสิทธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต กล่าวว่า จังซีลอนดำเนินธุรกิจค้าปลีกกว่า 18 ปี บนพื้นที่ 55 ไร่ ให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจากทั่วโลกกว่า 45,000-50,000 คนต่อวัน

ด้วยการวางแผนสร้างความเข้มแข็งให้กับแบรนด์ และกลยุทธ์การตลาดที่สร้างสรรค์ มีการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว ยึดหลักบริหารที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และเข้าใจไลฟ์สไตล์ของนักช็อปที่แตกต่างกันในแต่ละซีซั่น โดยเน้นการปรับตัวและปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ศูนย์การค้าเติบโตต่อเนื่อง ภายใต้หลักการดำเนินธุรกิจอย่างมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน (Sustainability Commitment) ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy

เช่น เน้นใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างการตระหนักรู้ในหมู่บุคลากร และรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม เพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการกำกับดูแลกิจการที่ดี จะช่วยสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุล

พร้อมทั้งมีส่วนร่วมสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามนโยบายขององค์การสหประชาชาติ กลยุทธ์ ESG จึงเป็นปัจจัยสำคัญของจังซีลอนเช่นกัน

ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) นับเป็นพันธกิจหลักของจังซีลอนที่ให้ความสำคัญมาตั้งแต่ปีแรกจนถึงปัจจุบัน และมุ่งมั่นสู่อนาคตอย่างต่อเนื่อง คือแนวทางปฏิบัติที่เสริมสร้างพลังงานหมุนเวียน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจ สู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ด้วยหลัก 4 R ได้แก่ Reduce, Reuse, Repair และ Recycle ปัจจุบันบริษัทได้ก้าวไปสู่การ Upcycle สร้างมูลค่าและคุณภาพได้แล้ว เป็นการสร้างจิตสำนึกเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดปริมาณถุงพลาสติกและขยะ โดยให้นักท่องเที่ยวใช้ถุงผ้าลดโลกร้อน เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมของท้องทะเลภูเก็ต

เรื่องการจัดการระบบภายในศูนย์การค้า ภายหลังจากการรีโนเวตพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกศูนย์การค้า เราได้จัดสรรพื้นที่สีเขียวให้เพิ่มขึ้นกว่า 80% ทั่วทั้งศูนย์การค้า พร้อมยกระดับอาคารสู่อาคารเขียวอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินงานและติดตามผลการดำเนินงานผ่านโครงการ Jungceylon Energy Saving ด้วยการประหยัดพลังงาน เน้นใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และใช้เทคโนโลยีเพื่อบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม

อาทิ เพิ่มพลังงานสะอาดด้วยการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ช่วยประหยัดค่าไฟได้ปีละกว่า 3%, การบำบัดน้ำเสียมาใช้ซ้ำกับระบบคูลลิ่ง โดยนำกลับมาใช้งานได้ 3,000 Q/เดือน, กำจัดขยะ แยกชนิดขยะโดยผ่านมาตรฐาน ISO ที่เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม และรักษาสุขอนามัย, ใช้หลอดไฟระบบ LED Motion Sencer ชนิดหรี่แสงอัตโนมัติในบางพื้นที่ ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 85% ต่อปี ห้องเครื่องจักร MDB & Chiller Plant ประหยัดค่าไฟฟ้าโหลดแสงสว่างได้ 84% ต่อปี

“เรายังใช้สีทาผนังภายนอกอาคาร เป็นสีสะท้อนความร้อน ช่วยลดความร้อนได้ถึง 96.7% ลดอุณหภูมิได้มากถึง 12 องศาเซลเซียส และประหยัดพลังงานได้อีก 10-12%”

ด้านสังคม (Social) จังซีลอนได้ทำกิจกรรมเข้าถึงชุมชนมาโดยตลอด โดยร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วน และศิลปินในจังหวัดภูเก็ต ผ่านกิจกรรมเพื่อกระตุ้นจิตสำนึกและใส่ใจสิ่งแวดล้อม อาทิ สร้างแผงปะการังเทียม, ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อขยายและอนุรักษ์สายพันธุ์, ปลูกต้นจากช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศการท่องเที่ยว และการเก็บขยะหน้าชายหาดที่ทำเป็นประจำ

นอกจากนั้น ยังเปิดพื้นที่ให้ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ จ.ภูเก็ต สภากาชาดไทยออกหน่วยรับบริจาคโลหิต (Blood Donation), กิจกรรมส่งมอบความสุขแก่เด็กด้อยโอกาสช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่, สนับสนุนกิจกรรมเทศกาลประเพณีถือศีลกินผัก และจัดงานส่งเสริมรายได้แรงงาน รวมทั้งสาธารณสุขของคนในจังหวัด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และพัฒนาจังหวัดภูเก็ตให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพในระดับโลก

ทั้งดำเนินธุรกิจหลักธรรมาภิบาล (Governance) อย่างโปร่งใส มีคุณธรรม มีจริยธรรม คำนึงถึงผลประโยชน์ที่สมดุลของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ทั้งบุคลากรในองค์กร ร้านค้า คู่ค้า และลูกค้าที่มาใช้บริการ

พร้อมเปิดโอกาสให้พนักงานทุกระดับชั้นมีส่วนร่วม นำเสนอความคิดเห็นการพัฒนาองค์กร เพื่อนำไปสู่การเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่ดี มีความมั่นคง และเติบโตคู่ไปกับสังคมที่รักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้จรรยาบรรณและหลักการกำกับดูแลกิจการของบริษัท

เพื่อยกระดับบริการสู่ประสบการณ์การพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ได้ ทั้งความสะดวกสบาย ท่ามกลางธรรมชาติเหนือระดับ ภายใต้กรอบแนวคิด “The Oasis of Shopping in Patong”