อย่างไรก็ตาม "ต่อ ธนภพ" ยังได้กล่าวอีกว่า สุดท้ายแล้วผู้ชมจะเป็นผู้ตัดสินความสำเร็จของละครเรื่องนี้ และเขาก็ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุดแล้ว การที่ละครเรื่องนี้จะได้รับการตอบรับในแง่บวกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่เพียงแต่การแสดงของนักแสดงเท่านั้น แต่รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ เช่น บทละคร กำกับ การถ่ายทำ และการตัดต่อด้วย

“ก็ดีใจ ลุ้นมากๆ อยากเห็นว่า สิ่งที่เราทุ่มกันไป อากาศที่เราผ่านมาได้โชคดีที่ผมไม่เป็นฮีทสโตรก เพราะเสื้อผ้ามันหนามาก สามเลเยอร์ขึ้นไป แล้วเราถ่ายในหน้าร้อน และทุกคนจับมือกัน ทีมเสื้อผ้าก็คือสู้หนักมาก ส่วนตัวผมชอบคลาสสิก ผมชอบคำพูดพี่แอนที่ว่า มันไม่ใช่ละครพีเรียด มันเป็นวินเทจ ซึ่งที่ออกมา ผมได้เห็นเท่าทุกคน วันที่ผมอัดเสียงก็ยังไม่เห็นภาพ เรื่องนี้หลายคนบอกว่า สีมันดี เรื่องนี้พอมันเป็นนิยายที่มันดีมากๆ เราก็อยากสร้างความอมยิ้มนี้ให้ทุกคนในนิยายกับเรา สุดท้ายผมยังพูดแบบเดิมว่าคนที่ให้คำตอบหรือคนที่ทำให้โปรเจกต์ประสบความสำเร็จได้ไม่ใช่คนทำ คนที่ตอบได้จริงๆ คือคนดู ผมไม่กดดัน เพราะผมดันในจ๊อบตัวเองแล้ว ผมทำอะไรไม่ได้แล้ว แค่อยากให้เชื่อใจกันว่า ผมทำดีที่สุดแล้ว องค์ประกอบมันมากกว่าผม ผมไม่สามารถเคลมได้ เราไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น”