บุกตรวจคลินิก บอสหมอเอก พบปิดบริการ ไร้คน แต่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ จี้ให้มาพบจนท.
บุกตรวจคลินิก บอสหมอเอก ย่านรามอินทรา ถูกกฎหมายหรือไม่ พบปิดบริการ ไม่มีคนอยู่ แต่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ จี้ให้มาพบจนท. ไม่งั้นโดนหมายเรียกหรือหมายจับ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ต.ค.67 นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยตำรวจ ปคบ. เจ้าหน้าที่ สบส. และเจ้าหน้าที่ อย. ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกหรู ของบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ที่ดิไอคอนเวลเนส คลินิกเวชกรรม ภายในโครงการสำนักงานแห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา
เมื่อมาถึงทางโครงการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพด้านใน แต่ทางนายกองตรี ดร.ธนกฤต พูดคุยกับทางโครงการว่า ต้องให้สื่อมวลชนเข้าไปเพื่อความโปร่งใส สุดท้ายทางโครงการจึงอนุญาต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พอเข้าไปด้านในพบว่าคลินิกดังกล่าวติดป้ายด้านหน้าว่า ปิดให้บริการ แต่ทีมข่าวสังเกตเห็นว่าด้านในเปิดแอร์เอาไว้ แต่ไม่มีคนอยู่ ภายในมีอุปกรณ์ในการวัดความดัน อุปกรณ์ตรวจสุขภาพและป้ายโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมความงามและมีเอกสาร Certificate ตั้งโชว์อยู่ด้วย
หลังจากนั้นนายกองตรี ดร.ธนกฤต พร้อมเจ้าหน้าที่จะเดินทางไปตรวจสอบอีกจุดหนึ่งย่านประตูน้ำ ซึ่งเป็นจุดที่ปรากฏในภาพที่บอสหมอเอก สวมชุดคล้ายแพทย์ ฉีดยาให้กับคนไข้ โดยต้องไปตรวจสอบว่าสถานที่ดังกล่าวคืออะไร เปิดเป็นสถานพยาบาลอย่างถูกต้องหรือไม่ และเหตุใดจึงให้บุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ มารักษาคนไข้ได้
นายกองตรี ดร.ธนกฤต เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกรณีของนายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือ “บอสหมอเอก” ที่มีพฤติกรรมอ้างตัวเป็นหมอ ตามพระราชบัญญัติเวชกรรม ล่าสุดเราดำเนินการ กล่าวโทษ “บอสหมอเอก” ไปแล้ว ตามภาพที่ปรากฏในสื่อเมื่อวานนี้ พร้อมขยายผลต่อเนื่อง โดยการตรวจคลินิกแห่งนี้ ซึ่งเป็นของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปว่าได้รับอนุญาต เปิดอย่างถูกต้องหรือไม่
ซึ่งวันนี้เข้ามาตรวจคลินิกดังกล่าวแล้ว แต่ปรากฏว่าคลินิกปิดให้บริการ อย่างไรก็ตามก็ยืนยันว่า จะมาตรวจค้นใหม่ว่าเป็นคลินิกที่ถูกต้องหรือไม่ รวมไปถึงยาที่ฉีดให้กับคนไข้เป็นยาชนิดหรือประเภทอะไร เครื่องมือทางการแพทย์ถูกต้องหรือไม่ โดยจะร่วมกับ อย. เข้ามาตรวจร่วมด้วย
นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวอีกว่า วันนี้ขอเรียกร้องให้บอสหมอเอกมาแสดงตัวต่อเจ้าพนักงานว่า ตัวเองเป็นหมอจริงหรือไม่ ไม่งั้นจะโดนหมายเรียกหรือหมายจับ เพราะตามภาพที่ปรากฏในสื่อพบว่าบอสหมอเอกมักจะพูดหรือเรียกตัวเองว่าเป็นหมอ ทำให้คนในสื่อเข้าใจอย่างนั้น
วันนี้เราจึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด โดยมีข้อยุติว่าเราจะดำเนินคดีกับบอสหมอเอกให้เรียบร้อย โดยเฉพาะคลิปที่ปรากฏในสถานพยาบาลและมีลักษณะการฉีดยาหรือรักษาให้กับผู้หญิงไม่น้อยกว่า 5 คน ซึ่งเราก็ยังไม่ทราบว่าเอายาอะไรไปฉีดให้ ทำเหมือนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ส่วนตัวมองว่าการแสดงตนในลักษณะนั้น ทั้งการสวมเครื่องแบบชุดกาวน์ มีหูฟังเหมือนหมอ และการพยายามพูดอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นหมอ ทั้งที่ตัวเองเป็นเพียงนักเทคนิคการแพทย์ ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนไว้นั้น จะเรียกว่าเป็น “หมอเถื่อน” ก็ได้
บอสพอล เบี้ยวนัด ‘สคบ.’ ขอเลื่อน 15 วัน จนท.ไม่ยอม ถ้าไม่มามีโทษถึงจำคุก-ปรับซ้ำ
ส่วนการเพิกถอนการเป็นนักเทคนิคการแพทย์นั้น หากพบว่ามีความผิด ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เรายังมุ่งประเด็นไปที่การตรวจสอบว่าเป็นหมอหรือไม่ เพราะนักเทคนิคการแพทย์ ส่วนใหญ่จะเรียกอีกอย่างว่าเป็น “นักวิทยาศาสตร์” ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหมออยู่แล้ว
ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า การตรวจสอบว่าเป็นแพทย์หรือไม่ ของแพทยสภาสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ เพราะจะมีฐานข้อมูล ซึ่งหากไม่มีในฐานข้อมูล ก็ไม่ใช่แพทย์ตามที่ขึ้นทะเบียนกับแพทยสภา ก็เป็นหมอเถื่อน ถ้าหากหลอกลวง ก็จะมีความผิดตามกฎหมายวิชาชีพเวชกรรม
ซึ่งจะมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ถือเป็นโทษขั้นรุนแรง และหากประกอบวิชาชีพในสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต ก็จะมีโทษจำคุกอีก 5 ปี หรือถ้าแสดงตนเป็นผู้ดำเนินการ ก็จะมีโทษของผู้ดำเนินการอีก 5 ปี จึงขอฝากเตือน หากไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพก็อย่าแสดงตนหรือไปให้บริการเพราะโทษค่อนข้างร้ายแรง
ทันตแพทย์อาคม กล่าวต่อว่า ส่วนคลินิกที่เข้ามาตรวจสอบ พบว่าเป็นคลินิกเวชกรรมให้การรักษาโรคทั่วไป เป็นคลินิกที่จดทะเบียนถูกต้อง แต่เนื่องด้วยคลินิกปิด จึงยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ จึงจะต้องมาใหม่เพื่อมาตรวจสอบว่าเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ และบุคคลากรที่ให้บริการเป็นไปตามมาตรฐาน และมีความเหมาะสมที่เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์หรือไม่
และผู้ประกอบกิจการที่จะขออนุญาตได้ จะต้องเป็นบุคคลมีอายุเกิน 20 ปี มีถิ่นอาศัยในประเทศไทย ก็สามารถเปิดคลินิกได้แล้ว ซึ่งผู้ประกอบการผ่านการกลั่นกรองแล้วว่าถูกต้องตามกฎหมาย แต่แพทย์ผู้ดำเนินการจะต้องควบคุมกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพ ถ้าปล่อยปละให้คนอื่นที่ไม่ใช่แพทย์มาให้บริการ ก็จะมีโทษตามกฎหมาย จำคุก 2 ปี และต้องควบคุมไม่ให้ผู้มาใช้บริการกับคนที่ไม่ใช่หมอ
ขณะที่คุณต้น พนักงานออฟฟิศที่เช่าสำนักงานในโครงการนี้ เปิดเผยว่า ดิ ไอคอนกรุ๊ป เข้ามากว้านซื้อตึกในโครงการนี้หลายจุด รวม 4 แห่งแล้ว เหมือนกับจะสร้างอาณาจักร มีทั้งสำนักงาน คลินิก คาเฟ่
ซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างความเดือดร้อนให้คนในโครงการ เพราะแต่ละวันจะมีนักเรียนที่มาอบรมเยอะมากหลาย 100 คน มาแต่เช้ากลับดึก ลากกระเป๋าเดินทางมากันด้วย ซึ่งทำให้คนในโครงการไม่มีที่จะจอดรถ เคยร้องเรียนกับนิติบุคคลไปแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะที่เคยเห็นบอสพอลจะท่าทางแข็งกร้าว อำนาจล้น มีบอดี้การ์ดคอยคุม ไม่ได้เหมือนตอนออกโหนกระแส
ทั้งนี้ตัวเองรู้มาว่าระยะหลังที่ดิ ไอคอน กรุ๊ป เริ่มมีกระแสในโลกออนไลน์ ทางบริษัทก็จะไม่บอกกับนักเรียนที่จะมาอบรมตรงๆ ว่าเป็นดิไอคอนกรุ๊ป แต่จะบอกว่ามาเรียนคอร์ส ออนไลน์ พอมาถึงค่อยบอก ไม่งั้นจะไม่มีคนมาเรียน ส่วนบอสใหญ่ๆ ก็มากันประจำ และเคยเห็นเช่ารถหรูมาจอดด้วย
ส่วนคลินิกก็เพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่นาน ยังไม่ทันเห็นว่ามีคนมาใช้บริการ เรื่องก็เป็นข่าวเสียก่อน และเห็นว่าปิดให้บริการไป ทราบแค่ว่าจะเปิดเป็นคลินิกความงาม ส่วนบอสเอกก็เคยเห็นเวลามาจะขับรถเบนซ์สีขาว แต่งตัวสุภาพ แต่ไม่เคยเห็นใส่ชุดกาวน์