อาร์เอส ควบรวมกิจการ GIFT กางปีกรับธุรกิจ Consumer Lifestyle ครบวงจร
MEEN_MKT October 16, 2024 04:23 PM

อาร์เอส กรุ๊ป ประกาศควบรวมกิจการ GIFT กางปีกรับธุรกิจ Consumer Lifestyle เชื่อม Ecosystem ดันเติบโตก้าวกระโดดทั้งกลุ่ม ตั้งเป้ารายได้ทะลุ 7,000 ล้านบาท ในปี 2568

วันที่ 16 ตุลาคม 2567 นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากอาร์เอส กรุ๊ป ได้ขยายธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องและประสบความสำเร็จในการทรานส์ฟอร์มองค์กรจากธุรกิจสื่อและบันเทิงไปสู่ธุรกิจพาณิชย์ จนปัจจุบันมีสินค้าและบริการสำหรับผู้คนและสัตว์เลี้ยงในหลากหลายแบรนด์ และมีช่องทางการขายสินค้า Multichannel Platform เป็นของตนเอง

ซึ่งการพัฒนาองค์กรอย่างไม่หยุดยั้งนี้ สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของบริษัทที่ต้องการยกระดับความสุขและคุณภาพชีวิตของผู้คนและสัตว์เลี้ยง ในขณะที่ GIFT ก็เป็นบริษัทที่กำลังเติบโตสูง ประกอบธุรกิจที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ทั้งธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจสุขภาพและความงาม

มุ่งสู่ Consumer Lifestyle ครบวงจร

ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการของอาร์เอส กรุ๊ป จึงมีมติเห็นชอบให้เข้าลงทุนใน GIFT พร้อมปรับโครงสร้างของทั้ง 2 บริษัทใหม่ทั้งหมด เพื่อยกระดับการทำงานของทุกธุรกิจในเครือให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัท Consumer Lifestyle ครบวงจร

โดยการควบรวมกิจการในครั้งนี้ มีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 5,068.2 ล้านบาท โดยอาร์เอสซื้อหุ้นสามัญของ GIFT รวมไม่เกิน 1,206.7 ล้านหุ้น แบ่งเป็น

  • หุ้นสามัญเพิ่มทุน PP (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 651.8 ล้านหุ้น ที่ราคา 4.2 บาท
  • หุ้นสามัญ GIFT จากคุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ จำนวนไม่เกิน 238.5 ล้านหุ้น ที่ราคา 4.2 บาท 
  • หุ้นสามัญ GIFT จาก บจก.เชษฐโชติ โฮลดิ้งส์ จำนวนไม่เกิน 316.5 ล้านหุ้น ที่ราคา 4.2 บาท

โดยการถือหุ้นของอาร์เอสใน GIFT คิดเป็นสัดส่วน 49.99% และหลังการควบรวมกิจการในครั้งนี้ จะส่งผลให้นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ และกลุ่มเชษฐโชติศักดิ์ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งของอาร์เอส ในสัดส่วนไม่เกิน 36%

ทั้งนี้ แหล่งที่มาของเงินทุนมาจากการที่อาร์เอสออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน Private Placement (PP) เสนอขายให้กับนายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ และกลุ่มเชษฐโชติศักดิ์ จำนวน 364.2 ล้านหุ้น ที่ราคา 6.4 บาท รวมเป็นมูลค่า 2,330.8 ล้านบาท และการจำหน่ายธุรกิจ RS Livewell ให้กับ GIFT ด้วยมูลค่ารวม 2,737.4 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังปรับโครงสร้างธุรกิจให้ RS Mall ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท ไปอยู่ภายใต้การดูแลของ GIFT

ขยาย Ecosystem-สู่ธุรกิจ B2C

สำหรับการควบรวมกิจการของทั้ง 2 บริษัท นับเป็นการผสานจุดแข็งของแต่ละบริษัทเพื่อสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจหลายประการ อาทิ อาร์เอสจะสามารถใช้ความเชี่ยวชาญในฐานะผู้นำ Digital Marketing ผ่าน Platform Online ต่าง ๆ ของ A lot tech ในเครือ GIFT ที่มีศักยภาพสูงมาก มีฐานลูกค้าหลายล้านคนต่อเดือน ซึ่งการันตีด้วยยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์กว่าปีละ 2,500 ล้านบาท มาใช้สนับสนุนการขายสินค้าของ RS LiveWell

นอกจากนี้ ยังเป็นการขยาย Ecosystem ของอาร์เอสให้เข้าสู่ธุรกิจ B2C มากขึ้น ผ่านธุรกิจ F&B ในเครือ GIFT ที่มีหลากหลายแบรนด์และมีฐานลูกค้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น จากเดิมที่อาร์เอสมีฐานที่กว้างและแข็งแรงอยู่ก่อนแล้ว จากการเข้าลงทุนในธุรกิจ HATO และ Erb ขณะเดียวกัน GIFT จะสามารถใช้ศักยภาพของสื่อและบันเทิง ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญหลักของอาร์เอส มาสนับสนุนการทำกลยุทธ์และเป็นเครื่องมือสำคัญทางการตลาด

ทั้งนี้ GIFT ยังสามารถใช้ทรัพยากรบุคคล รวมถึงระบบ Back Office และ Fulfillment ของอาร์เอส ในการทำงานและการให้บริการลูกค้าได้ทันที ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณการลงทุนของ GIFT ไปได้มาก

“จึงเห็นได้ว่าความร่วมมือของทั้ง 2 บริษัทหลังการควบรวมกิจการ จะเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้อาร์เอส กรุ๊ป เดินหน้าสู่การเป็นบริษัท ‘Consumer Lifestyle’ ที่ประกอบไปด้วย ธุรกิจเพลง สื่อและบันเทิง ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจบริการด้านสุขภาพสำหรับคนและสัตว์เลี้ยง รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ที่มีช่องทางจัดจำหน่ายของตนเอง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน”

ผสานจุดแข็ง-รุกธุรกิจใหม่

ทั้งนี้ หลังจาก GIFT เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาร์เอส กรุ๊ปแล้ว ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อบริษัท “GIFT Infinite” เป็น “RSXYZ” ซึ่งบริษัทภายใต้ชื่อใหม่นี้จะผสานจุดแข็งหลักของอาร์เอส กรุ๊ป เข้ากับการริเริ่มลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ โดยมุ่งเน้นในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย อันได้แก่ ธุรกิจสุขภาพ ธุรกิจเวลเนส ธุรกิจฮอสพิทาลิตี้ ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจการศึกษา ซึ่งล้วนเป็นรากฐานสำคัญของสังคมและวัฒนธรรมไทย

อย่างไรก็ตาม โครงสร้างธุรกิจใหม่ของอาร์เอส กรุ๊ป จะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงเดือนมกราคม 2568 แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสามารถแบ่งสัดส่วนโครงสร้างธุรกิจหลักเป็น ส่วน ได้แก่ Consumer Lifestyle ประมาณ 75% และ Entertainment ประมาณ 25%

“เรามั่นใจว่าด้วยโครงสร้างธุรกิจใหม่ที่ครบถ้วนหลังควบรวมกิจการ จะส่งผลให้อาร์เอส กรุ๊ป เติบโตอย่างก้าวกระโดดทันที และพร้อมเดินหน้ารุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ ๆ ได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะสะท้อนกลับไปยังผลประกอบการที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างเด่นชัด โดยคาดว่าในปี 2568 บริษัทจะมีรายได้ทะลุ 7,000 ล้านบาท ซึ่งมาจาก RS Music & Entertainment 25%, RSXYZ (GIFT เดิม) 65% และ RS pet all. 10%” นายสุรชัยกล่าวปิดท้าย

อาร์เอส กรุ๊ป

© Copyright @2024 LIDEA. All Rights Reserved.