อาจารย์ปาน เทพ ออกโหนกระแส เปิดหลักฐานสำคัญส่อมัดตัว ทนายตั้ม ษิทรา งัดหลักฐานหนังสือสัญญาจ้างทำแอปหวยออนไลน์ หักล้างคำโกหกผ่านสื่อ อ้างกู้ยืมมาลงทุนยิ่งฟังไม่ขึ้น และไม่ใช่เสน่หาแต่จงใจล่อลวงแต่แรก สรุปชัดเงิน 71 ล้าน เป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากฉ้อโกง
หากเปรียบเป็นมวย การเชิญ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยแพทย์ตะวันออก ม.รังสิต มาออกโหนกระแสของหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (13 พ.ย.) ก็คงไม่ต่างอะไรจากหมัดน็อคที่ปล่อยอาวุธเด็ดเข้าจุดสำคัญของคู่ต่อสู้ อย่างแม่นยำและตรงประเด็นชนิดถึงพริกถึงขึง
โดยล่าสุดคณบดีวิทยาลัยแพทย์ตะวันออก ม.รังสิตได้นำหลักฐานซึ่งเป็นหนังสือสัญญาจ้างทำแอปพลิเคชั่นลอตเตอรี่ออนไลน์ รายละเอียดในเอกสาร ระบุเป็นการทำขึ้นระหว่าง “มาดามอ้อย” ในฐานะผู้ว่าจ้างกับบริษัทหนึ่งซึ่งเป็นบริษัททำหน้าที่เขียนแอปฯ ซึ่งเป็นผู้รับจ้างอีกฝ่ายหนึ่ง ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า เงินจำนวนนี้ไม่ใช่ทรัพย์สินของทนายตั้ม
อ.ปานเทพ ยืนยันหลักฐานชิ้นนี้จะชี้ขาดว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะเมื่อยึดตามกฏหมายโดยเฉพาะการประกอบธุรกิจโดยทั่วไป การจะตัดสินใจทำอะไรนั้น สิ่งสำคัญที่สุดขึ้นอยู่กับ “สัญญาจ้าง” ไม่ใช่แชตสนทนาที่ทนายดังพยายามจะสื่อ และเมื่อข้อมูลในหนังสือสัญญานี้แจ้งรายละเอียดของจุดประสงค์อย่างชัดเจนแล้ว การที่ผู้ต้องหาจะมาอ้างเรื่องยืมเงินมาลงทุนจึงเป็นไปไม่ได้ โดยบริษัทคู่สัญญาที่มาทำให้นี้มีนักธุรกิจ 2 คน ที่จะเป็นตัวละครสำคัญชื่อว่า “เตอร์” และ “มี่”
โดยทนายตั้มอาสาเป็นคนกลางประสานระหว่าง “พี่อ้อย” กับ “เตอร์” และ “มี่” ดำเนินการทำเว็บไซต์ทและแอปฯ หวย ที่ว่านี้ แต่ทางทนายตั้มไปโกหกเตอร์และมี่ว่าพี่อ้อยไม่ทำต่อแล้ว ทั้งที่พี่อ้อยโอนเงินมาไว้ที่ทนายตั้มแล้วเรียบร้อย พอถึงเวลาต้องส่งมอบงานตามสัญญา พี่อ้อยทวงถามมาทางทนายตั้ม ปรากฏว่าไปจ้างบริษัทอื่นมาทำแอปฯ ให้
ขณะที่ กรรชัย เมื่อเห็นเอกสารหนังสือสัญญาจ้างดังกล่าวก็หยิบขึ้นมาดูด้วยตาตัวเองพร้อมกล่าวว่า เป็นหนังสือสัญญาโครงการที่พัฒนาเว็บไซต์ซึ่งทำเกี่ยวกับแอปพลิเคชั่นหวยออนไลน์ โดยย้ำตรงท่อนที่ระบุคนที่ไปทำคู่สัญญาด้วยไม่ใช่ทนายตั้ม แต่เป็นพี่อ้อยหรือเจ๊อ้อย เศรษฐินี
ในหนังสือยังระบุด้วยว่าผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายสินจ้างเหมาตามสัญญาเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2 ล้านยูโร (ราว 71 ล้านบาท) และมีลายเซ็นของเศรษฐีนีหญิงชัดเจน แต่สัญญาดังกล่าว อ.ปานเทพเสริมว่าได้ทำการปรับปรุงและแก้ไขทั้งสิ้นโดยสำนักงานษิทราลอว์เฟิร์ม (Sittra Law Firm)
ท้้งนี้ อ.ปานเทพยังหักล้างข้ออ้างได้มาโดยเสน่หาของทนายตั้ม โดยยืนกรานเรื่องนี้เป็นการล่อลวงแต่แรกเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน ตัวอย่างหลักฐาน อาทิ มีการถอนเงินซื้อบ้านด้วยเงินสด สิ่งเหล่านี้ตั้งมาเพื่อหลอกอีกฝ่ายเพราะฉะนั้นเงิน 71 ล้าน เป็นสิ่งอื่นไม่ได้นอกจากฉ้อโกง
ประเด็นนี้ต่อมาเพจออยศรีและผองเผือกก็ออกมาร่วมเคลื่อไหวด้วย โดยระบุข้อความสสั้น ๆ คล้ายจะฝากไปถึงทนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความที่รับผิดชอบคดีของยายษิทรา เบี้ยบังเกิด ในคดีเงิน 71 ล้าน ซึ่งเนื้อหาจากโพสต์ต้นทางระบุว่า “พี่สายหยุดคะ เอกสารการโอนเงินมาจากต่างประเทศของพี่อ้อยเข้าไทย ระบุ เพื่อลงทุนค่ะ”.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
