เจี๊ยบ : วันนั้นกินข้าวกับเพื่อน เพื่อนก็ถามสารทุกข์สุกดิบธรรมดา เพื่อนรอบตัวแต่งงานกันหมดแล้วหนูเป็นคู่สุดท้ายของกลุ่มแทบจะทุกกลุ่ม นี่ก็เงียบไปแล้วก็พูดกับเพื่อนว่าปีหน้าแล้วกัน เพื่อนถามก็พูดออกมาปีหน้าก็แล้วกัน เจี๊ยบก็หันไปถามว่านี่คือพูดจริงๆ หรือเปล่า เขาก็บอกว่าจริงๆ เดี๋ยวปีหน้าแต่งแล้ว
ปูไข่ : เคยถ้ามคุณเจี๊ญบว่าอยากจะแต่งก่อนอายุเลขบางเลขของเจี๊ยบเพราะเจี๊ยบบอกว่าถ้าจะแต่งงานอยากอยู่ในสภาพที่สวยที่สุดได้อยู่ ถ้ามากกว่านี้จะเหี่ยวแล้ว อันนี้คือคุยไว้นานมากแล้วนะ บังเอิญมันเป็นช่วงเวลานี้พอดี เราเคยพูดไว้แล้วเราก็ต้องทำให้ได้
เราตั้งใจจริงๆ มั้ยว่าจะปีหน้า ?
ปูไข่ : ตั้งใจจริงๆ จริงๆ มันเลยในสิ่งที่เขาพูดไปแล้วประมาณปีนึง แต่มันไม่พร้อมจริงๆ ด้วยโควิดด้วยมันสะดุดนิดนึง มันกำลังกลับมา มันเลยมาแล้วแต่เรารับปากแล้วเราต้องทำให้ได้
แต่ละวันที่เลือกดูฤกษ์มาแล้วทั้งนั้น ?
ปูไข่ : ไม่ดูหรอก เอาสะดวก ผมคิดอย่างนี้ว่าแต่งงานคู่รักส่วนมากจะมีปัญหาเมื่อแต่งงานไปหลายๆ ปีเพราะจะมีคนนึงจำไม่ได้ว่าแต่งงานวันที่เท่าไหร่ ผมเลยเลือกวันเกิดผม ผมไม่ลืมแน่นอน
เราบอกผู้ใหญ่ก่อนมั้ยหรือเราตัดสินใจก่อนเลย ?
ปูไข่ : ตัดสินใจก่อนเลยแล้วค่อยบอกผู้ใหญ่
คุณพ่อคุณแม่แต่ละฝั่งว่ายังไง ?
ปูไข่ : ไม่ว่าอะไรเลย
เจี๊ยบ : ชิลค่ะ คือเหมือนบ้านเราชิลกันทั้ง 2 บ้าน อาจจะเพราะเราคบกันมานานแล้วเขาก็เห็นแล้วว่าพัฒนาการของเรามันดีขึ้นไม่ได้ไปทำอะไรที่ไม่ดี
เพื่อนๆ ล่ะตื่นเต้นมั้ย ?เจี๊ยบ : ที่สุด
ปูไข่ : ตอนแรกไปจองก่อนวันเกิดผมปีนึงแต่คิดว่ายังไม่พร้อมจะบอกเพื่อน มานั่งคำนวณว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนจะไปต่างประเทศกลัวเขาไม่อยู่
เจี๊ยบ : รีแอคเพื่อนหนูคือร้องไห้ทุกคน พอบอกว่าจะแต่งงานนะ ทุกคนสะอื้นหมด แล้วเราเป็นคนเห็นเพื่อนร้องไห้ไม่ได้เราจะร้องไห้ตาม จนปูไข่หันมาถามว่า เดี๋ยวนะอันนี้มาขอเจี๊ยบแต่งงานไม่ได้มาขอเจี๊ยบไปตาย ร้องไห้ทำไม
ปูไข่ : ไปบอกพี่เป้ วิศวะ พี่เป้ไม่เชื่อว่าจะแต่ง นั่งอยู่ครึ่งชั่วโมงเขาไม่เชื่อจริงๆ นะ พี่เป้บอกว่าเพ้อเจ้ออะไร
มีจัดงานก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ?
เจี๊ยบ : ใช่ค่ะ ครั้งแรกเป็นงานปาร์ตี้ที่แสมสาร พอดีเจี๊ยบมีพี่เคารพรักเขาเป็นเจ้าของรีสอร์ท เขาเคยพูดกับเจี๊ยบกับปูตั้งแต่ก่อนแต่งงานว่าถ้าวันไหนจะแต่งงานกันเขาจะปิดรีสอร์ทให้ 1 คืน พอเขารู้เขาก็บอกว่าเอาไปเลย เอาวันไหน เป็นของขวัญวันแต่งงาน เจี๊ยบก็เลยรวบรวมเพื่อนๆ ที่เขารู้เรื่องราวเราตั้งแต่วันแรกเหมือนเป็นการเลี้ยงขอบคุณก็จัดเป็นซิทดาวน์ดินเนอร์เล็กๆ ให้กับทุกคน อันนี้เพื่อนๆ ทำให้หมดเลย ชุดเพื่อนก็เอามาให้
เห็นว่ามีเสียน้ำตาด้วย ?
เจี๊ยบ : บรรยากาศทุกอย่างมันดีหมดเลย พอมันนั่งเป็นซิทดาวน์ดินเนอร์จริงจัง เจี๊ยบก็เลยขอเพื่อนที่สนิท 2 คนสปีชให้เจี๊ยบนิดนึง 1 ในนั่นก็มีพี่นุ่น วรนุช แล้วก็มี จอย ชลธิชา กับ ซาย กรรณิกาซาย ให้เป่ายิ้งฉุบกัน แต่ก็กังวลว่าพี่นุ่นจะพูดให้หรือเปล่าเพราะว่าด้วยความสนิทกันมากๆ ของเจี๊ยบกับพี่นุ่นเราไม่ใช่คนที่คุยเยอะทั้งคู่ พี่นุ่นก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ แต่ไปยกมือไหว้ว่า วอๆ พูดให้เจี๊ยบหน่อยได้ไหม ขอแค่วันเดียวแล้วสรุปเขาพูดให้ มันมีค่ามากเลย แค่เขาพูดว่า “พี่” เจี๊ยบก็ร้องไห้แล้ว มันเป็นโมเมนต์ที่มีความสุขมาก
แล้ววันจริงล่ะ ที่เพิ่งเกิดขึ้น ?
เจี๊ยบ : วันจริงๆ เจี๊ยบออเดอร์เพื่อนๆ ไว้ว่าห้ามร้องไห้ เจี๊ยบหันไปหาใครห้ามโช้ค เพราะถ้าเจี๊ยบหันไปแล้วเห็นโช้คคือเจี๊ยบจะร้องด้วย เมคอัพมันเสียหนูกลัวไม่สวย
เจ้าบ่าวล่ะมีน้ำตามั้ย ?
ปูไข่ : มีเสียงสั่น สำหรับผม ผมเชื่อมั่นในคำมั่นสัญญาในสิ่งที่ศาสนาผมพูดถึงมันเป็นการตั้งใจพูดจริงๆ ว่าสิ่งที่เราจะปฏิบัติกับเขาตลอดชีวิตมันเป็นยังไง อยากจะพูดให้มันชัดเจนแล้วทำมันให้ได้ มันก็เลยมีเสียงสั่น
อีกเรื่องนึงคือแหวนไม่มีการเซอร์ไพร์สกัน ?
ปูไข่ : ใช่ คือตอนที่บอกเพื่อนๆ ว่าจะแต่งงานยังไม่ได้ซื้อ แล้วผมรู้สึกว่าแหวนถ้าผมเลือกให้เขา เขาจะใส่หรอ มันต้องใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงมั้ย
เจี๊ยบ : หนูเลือกเองอ่ะดีแล้ว ปูไข่เป็นผู้ชายแบบ 100% หนูก็แฮปปี้ไงหนูอยากได้แบบที่หนูอยากได้
งานก็จัดเองหมดเลย ?
เจี๊ยบ : ทำเอง ตอนแรกที่คุยกันเรื่องแต่งงานเหตุผลที่ยังไม่อยากแต่งงานเพราะว่าค่าใช้จ่ายเยอะมากและของที่ใช้ในงานแต่งงานเราจะอยู๋กับมันแค่ 3 ชั่วโมงแล้วเราก็จะทิ้งมัน รู้สึกว่าโลกมันร้อนอะไรประหยัดได้ก็ประหยัด คีย์ของเจี๊ยบคืออยากเซฟตังค์ในการทำงานแต่งงาน มันต้องได้ภาพที่อยากได้แต่เจี๊ยบต้องเป็นคนคุมงบประมาณทุกอย่างเอง เลยทำทุกอย่างเองหมดเลย มันไม่ยากแต่มันเยอะแล้วมันเหนื่อย เจี๊ยบก็จะมีน้องๆ ที่เป็นรันเนอร์ เจี๊ยบก็จะกระจายงานทุกคนทำอะไรบ้าง วันรุ่งขึ้นพี่จะปล่อยจอยแล้ว พี่จะมีหน้าที่เดินเข้างาน เจี๊ยบทำทุกอย่างเองงานมันออกมาเป็นตัวเจี๊ยบแบบ 100% ทุกคนเดินเข้าไปในงานก็จะพูดว่านี่มันคืองานแต่งงานเจี๊ยบ
2 คนนี้ไม่ดื่มก็เลยตัดสินใจว่า ?
เจี๊ยบ : ตอนแรกตัดสินใจว่าจะไม่มีเครื่องดื่มในงานแต่งงาน แต่เพื่อนสายดื่มทุกคน หนูก็เลยมีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์พอให้เพื่อนเป็นกระษัยเส้น ซักบ่ายสองค่อยเริ่มจิบแล้วสามโมงครึ่งก็กลับบ้านกันไป ถ้าไม่ผิดมีคนบอกว่าคนที่ไปเปิดบูธเครื่องดื่มคนแรกคือคุณเอมี่ กลิ่นประทุม ใช่มั้ยคะ เพราะน้องบอกว่าเหมือนเห็นคนที่เปิดบูธคนแรกคือคุณเอมี่ กลิ่นประทุม
จะมีทายาทเลยมั้ย ?
ปูไข่ : ยังครับ ขอเที่ยวก่อน อัดอั้นมานานแล้ว เก็บตังค์ทุกบาททุกสตางค์เพื่อมาจัดงาน ตอนนี้ขอสัญญากับเจี๊ยบเลยว่าจะเที่ยวให้กระจายเลย
เจี๊ยบ : เที่ยวไปเรื่อยๆ เลยค่ะ เที่ยวจนกว่าจะไม่มีแรง ยังอยากไปอีกหลายๆ ที่ที่มันจะต้องใช้แรงในการท่องเที่ยว หนูว่าหนูไม่พร้อมแล้ว กระดูกมันจะพรุน
วันจดทะเบียน ?ปูไข่ : กะว่าจะวันคริสต์มาส
แล้วนามสกุลเปลี่ยนมั้ย ?เจี๊ยบ : อยากให้เปลี่ยนมั้ยคะ
ปูไข่ : แล้วแต่ยูเลย
เจี๊ยบ : ถ้างั้นยังไม่ได้คิดค่ะ จนกว่าจะถึงวันจดทะเบียนอาจจะต้องคิดวิเคราะห์แยกแยะอีกที
รักกันมา 11 ปี เป็นสามีภรรยากันแล้ว บอกความในใจกันหน่อย ?
ปูไข่ : สัญญาว่าจะพาไปเที่ยวรอบโลกเหมือนเดิมตามที่เคยพูดไว้ก่อน 11 ปีที่แล้ว อย่างสุดท้ายคือยูต้องรู้จักยอมปูทุกเรื่องทุกอย่างตลอดไปเหมือนที่ปูพูดไว้ในวันงานเข้าใจมั้ย
เจี๊ยบ : เจี๊ยบไปเที่ยวกับปูทุกประเทศ ขอบคุณมากตรงนี้เลยที่จะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ จะรอไปแบบเที่ยวฟรีสบายๆ ไม่ทำอะไรมีหน้าที่เที่ยวอย่างเดียว ปูอยากเป็นผู้นำให้เป็นเลย จะเป็นผู้ตามที่ดีมาก เพราะว่าไม่อยากใช้สมองแล้ว
คลิปสัมภาษณ์