“เรียนพี่น้องสื่อมวลชนที่เคารพ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาประมาณ 3 สัปดาห์ ที่ผมได้มาทำหน้าที่สื่อมวลชนในการนำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องทุกข์ของพี่อ้อยในการดำเนินคดีฉ้อโกง และคดีฟอกเงินกับทนายตั้มและพวก จนกระทั่งมีกระบวนการการดำเนินคดี ออกหมายจับ คัดค้านการประกันตัว และอายัดทรัพย์แล้ว”
“และเมื่อวานนี้วันที่ 13 พ.ย. 2567 ผมได้ให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแสทางช่อง 3 รวมทั้งการให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับสื่อมวลชนอื่นๆ จนผมเชื่อว่าผู้ชมส่วนใหญ่และสื่อมวลชนได้เข้าใจเรื่องราวทุกอย่างมากขึ้นแล้วในขณะนี้”
“ดังนั้นการทำหน้าที่ของผม ในฐานะสื่อมวลชนคนหนึ่งที่รับข้อมูลการร้องทุกข์ของพี่อ้อยได้เสร็จสิ้นตามสมควรแล้ว โดยหลังจากนี้ก็จะเป็นเรื่องของทนายทั้ง 2 ฝ่าย คือโจทก์และจำเลยที่จะต้องต่อสู้กันตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป”
“ผมจึงขอยุติการแถลงข่าวเกี่ยวกับคดีนี้ เพราะจะไปทำหน้าที่อื่นๆ ในงานสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ในด้านงานวิจัยและพัฒนาเรื่องสมุนไพร รวมทั้งการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนจีน การแพทย์อายุรเวทอินเดีย การแพทย์ทางเลือก การแพทย์บูรณาการ อันเป็นภารกิจที่สำคัญยิ่งของวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต”
“และอีกเรื่องหนึ่งคือที่มีความสำคัญต่อประเทศชาติในเรื่องทรัพยากรทางทะเลในอ่าวไทย คือผมกำลังเตรียมการนำเสนอทางออกเรื่องบันทึกความเข้าใจในพื้นที่อ้างสิทธิไหล่ทวีป ของไทย-กัมพูชา ในปี 2544 หรือ MOU 2544 ที่หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 24 พ.ย. 2567 นี้”
“แต่ทุกท่านยังคงติดตามผลงานของผมได้ในฐานะสื่อมวลชนได้ ทั้งบทความ และการจัดรายการข่าวสารทั่วไปในเว็บไซต์ผู้จัดการและสถานีโทรทัศน์ News1 เป็นปกตินะครับ ขอขอบพระคุณพี่น้องสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและติดตามในช่วงเวลาที่ผ่านมา และมอบความสำเร็จความคืบหน้าในคดีของทนายตั้มทั้งหมดให้เป็นผลงานของพี่น้องสื่อมวลชนทุกท่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงขอขอบพระคุณกำลังใจจากพี่น้องประชาชนทุกท่านอย่างล้นหลามมา ณ โอกาสนี้”