ทักษิณมั่นใจ รัฐบาลอิ๊งค์อยู่ครบเทอม เชื่อพรรคร่วมเห็นต่างแต่คุยกันได้ มองคดีร้อง “นายกฯอิ๊งค์” ไม่เป็นอุปสรรค บอกทุกคนเดาได้ใครคือพวกขี้อิจฉา ย้ำมาม่าบ้านจันทร์ฯอร่อย จึงโฆษณาให้
ที่ จ.อุดรธานี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการขึ้นเวทีปราศรัยวันนี้ว่า เมื่อขึ้นเวทีแล้วรู้สึกเหมือนอายุ 25 ปี แต่พอลงจากเวทีเหมือนอายุ 75 ปี ซึ่งที่พูดไปก็ขึ้นอยู่กับคนฟัง ถ้าคนฟังเขาอยากฟัง ก็มีความสนุกสนาน มีอารมณ์อยากจะพูดด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนเครื่องเริ่มติดแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า เครื่องติดแต่พอกลับไปถึงโรงแรมก็หลับ พร้อมทำท่านอน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการย้ำหลายครั้งว่าตัวเองกลับมาแล้วขณะที่ปราศรัย มีอะไรที่เป็นปัจจัยให้ตัดสินใจกลับมาขึ้นเวทีทางการเมือง ทั้งที่เคยบอกว่าจะกลับมาเลี้ยงหลาน นายทักษิณกล่าวว่า ไม่มีอะไร แค่อยากช่วยบ้านเมือง ในฐานะที่ตนเคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นคนไทย ก็อดไม่ได้ที่จะห่วงใยบ้านเมือง เห็นอะไรไม่ดีก็อดไม่ได้ จึงต้องตั้งตำแหน่งให้ตัวเองว่า สทร. ด้วยความห่วงใย
เมื่อถามว่า เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนบนเวทีได้มีการพูดถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบกับมีกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะอยู่ไม่ถึงตรุษจีนปีหน้า นายทักษิณกล่าวว่า “เอาวิเคราะห์นะ ก็คิดว่าน่าจะอยู่ครบเทอม ไม่น่ามีอะไรที่เป็นปัญหา พรรคร่วมเห็นต่างกันก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถึงเวลาเขาก็คุยกันรู้เรื่องหมด รวมถึงนายกฯก็ได้มีการเชิญแต่ละพรรคร่วมคุยกัน ก็รู้เรื่องหมด”
เมื่อถามว่า คดีความต่าง ๆ ที่นายกรัฐมนตรีโดนร้อง จะเป็นอุปสรรคทำให้พรรคร่วมรัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอมหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ไม่มีอะไร บ้านเรากฎหมายอยู่ที่คนจะตีความ ถ้าคนอยากจะหาเรื่อง ก็คิดหาเรื่องทุกวัน ถือเป็นเรื่องที่ไม่ต้องให้ความสำคัญมาก เราทำอะไรให้ถูกต้อง ก็เท่านั้นแหละ
ถามต่อว่า ที่ปราศรัยใช้คำว่ากฎหมายเฮงซวยตอนที่พูดนั้น คิดถึงเรื่องอะไร นายทักษิณกล่าวว่า “จำไม่ได้ แต่กฎหมายเราไปแก้โดยมองคนมากไป ช่วงนั้นเขากลัวผม พยายามเขียนกฎหมายกันนั่นกันนี่ แต่กันไปกันมา กลับไม่ได้กันตนแค่คนเดียว กลายเป็นกันระบบ แทนที่จะมีคนมาช่วยทำงานให้บ้านเมือง”
นายทักษิณกล่าวอีกว่า เมื่อคนตั้งใจและมีความปรารถนาที่ดี มีความคิดดี ๆ อยากจะมาช่วยกัน ก็จะมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย กลายเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากเข้ามา เมื่อไม่มีใครอยากเข้ามา ก็ได้คนที่มีคุณภาพไม่พอเข้ามาแก้ปัญหาประเทศ ขณะที่ทั้งโลกพยายามระดมคนหัวดีมาช่วยงาน แต่บ้านเราเอาเฉพาะพวกเดียวกัน แบบนี้ไม่ได้ ต้องเห็นแก่ส่วนรวม
เมื่อถามว่า ที่พูดบนเวทีว่ามีคนอิจฉาหมายถึงใคร หรือกลุ่มใด นายทักษิณกล่าวว่า ไม่รู้เหมือนกัน แต่รู้ว่าทุกคนเดาได้ การแข่งขันทุกอย่างต้องมีกติกา เมื่อจบการแข่งขันทุกคนต้องหันหน้าเข้าหากัน มีสปิริตความเป็นนักกีฬา ไม่ใช่บอกว่าบอลแข่งแพ้ แล้วใช้ปืนยิง มันใช้ไม่ได้
เมื่อถามว่า โครงสร้างของบริหารค่อนข้างใหญ่และมีความเทอะทะเกินไป ควรแก้ไขอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า ระบบราชการของประเทศไทย ขยายขึ้นในช่วงที่ตนไม่อยู่ 17 ปี ซึ่งส่วนราชการที่ขยายมากคือส่วนภูมิภาค และแทนที่จะกระจายอำนาจให้ประชาชนมากขึ้น กลับไปเพิ่มอำนาจให้ภาครัฐที่อยู่ใกล้ชิดประชาชน ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายสูง ระบบราชการเทอะทะ และประชาชนไม่มีสิทธิมีเสียง
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการปราศรัยบนเวทีว่ากลางปีประเทศไทยจะมีแสงสว่าง จะมีอะไรออกมาให้ประชาชนเห็นนั้น หมายความว่าอย่างไร นายทักษิณกล่าวว่า เชื่อว่างานที่ตนและ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำจะเริ่มเห็นความชัดเจนขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะแจ้งก่อนสิ้นปีนี้ และจะสัมฤทธิผลแทบทุกอย่าง ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงการแก้ไขปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน
เมื่อถามถึงกรณีที่เคยให้สัมภาษณ์ที่วัดคลองครุว่าแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เข้าไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเพื่อกินมาม่านั้น นายทักษิณกล่าวว่า ”ผมบอกแล้วว่ามาม่าอร่อย ผมโฆษณาให้มาม่า“
เมื่อถามว่า การดูแลครอบครัวชินวัตรกับพรรคเพื่อไทยให้ยิ่งใหญ่นั้น จะต้องทำอย่างไร นายทักษิณกล่าวว่า ไม่ต้องทำอะไรเลย