วันเพ็ญเดือนสิบสอง โคราชตรวจ รง.ป้องลักลอบปล่อยน้ำเสียลงลำมูล
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน นายธรรมธรรศ ทองสำโรง นายอำเภอโชคชัย จ.นครราชสีมา ในฐานะประธานคณะทำงานพัฒนา อนุรักษ์ ฟื้นฟูลำน้ำมูลช่วงเส้นทางผ่าน 10 ตำบล ของ อ.โชคชัย พร้อมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา (สคพ.11 นม.) สนง.อุตสาหกรรม สนง.ปศุสัตว์ สนง.สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ผู้นำชุมชนและภาคประชาชนลงพื้นที่ตรวจสอบการจัดการน้ำเสียของโรงงานอุตสาหกรรม กิจการชำแหละและแปรรูปอาหารจากเนื้อสัตว์ ไก่สด สุกร มันสำปะหลังรวมทั้งผลิตชิ้นส่วนอีเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือแพทย์ พลาสติกและน้ำแข็ง รวม 10 แห่ง เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุลักลอบปล่อยน้ำเสียลงลำน้ำมูลโดยไม่ผ่านกระบวนการบำบัด ซึ่งเกิดขึ้นในรอบปี 67 รวม 4 ครั้ง ผลตรวจเบื้องต้นพบระบบการจัดการน้ำเสียก่อนระบายออกสู่ภายนอกมิให้ส่งผลกระทบต่อลำมูลมีมาตรฐาน โดย ให้ข้อเสนอแนะในการจัดการและการพัฒนาการจัดการสิ่งแวดล้อมของแหล่งรองรับน้ำเสียให้จัดทำคันดินรอบบ่อพักน้ำให้มั่นคงแข็งแรง จากนั้นจะนำผลการติดตามตรวจสอบเข้าสู่การประชุมเพื่อกำหนดทิศทางในการดำเนินการในระดับพื้นที่ต่อไป
ด้านนายซ้าย ผลกระโทก สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นครราชสีมา เขต อ.โชคชัยรัศมี 1-2 กิโลเมตร มีโรงงานอุตสาหกรรมและสถานประกอบกิจการอื่นๆ รวม 23 แห่ง ตั้งอยู่สองฝั่งลำน้ำมูล การพิจารณาจัดตั้งโรงงานหรือสถานประกอบกิจการ อปท.และผู้นำชุมชนต้องพิจารณาอย่างรอบครอบให้ครบคลุมทุกมิติและไม่ควรอนุญาตให้จัดตั้งเพิ่มเติมอีก เนื่องจากลำน้ำมูลเป็นพื้นที่สีแดงมีความเสี่ยงสูงและต้องแบกรับน้ำเสียจากการบำบัดทั้งผ่านและไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งมีโรงงานหลายแห่งขยายฐานการผลิตแต่ไม่เคยปรับปรุง ซ่อมบำรุงระบบบำบัดน้ำเสียแต่อย่างใด เมื่อเกิดปัญหาชาวบ้านไม่ต้องการเงินชดใช้เยียวยา ผู้ประกอบการควรมีจิตสำนึกและรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
ทั้งนี้เมื่อช่วงกลางปี 67 พบโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยน้ำเสียไม่ผ่านการบำบัดหรือไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด จำนวน 3 ครั้ง ดังนี้ 1.วันที่ 16 พฤษภาคม บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผลิตขนไก่ป่น ปล่อยน้ำทิ้งไม่ผ่านการบำบัดลงลำน้ำมูล ทำให้น้ำดิบช่วงเส้นทางน้ำไหลผ่าน ต.ท่าอ่าง ต.ด่านเกวียน และ ต.ท่าจะหลุง อ.โชคชัย มีสีเขียวส่งกลิ่นเหม็น ปริมาณสารละลายสูงเกินมาตรฐานส่งผลให้ปลาเค้า ปลาตะเพียน ปลาขาวและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ น้ำหนักรวมประมาณ 3 ตัน ลอยตายบนผิวน้ำเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร 2.วันที่ 16 ส.ค น้ำฝนผสมรวมขี้เถ้าที่นำมาถมปรับพื้นที่ภายในโรงแป้งมันเยนเนรัลสตาสท์ อ.ครบุรี ปริมาณ 200 ลูกบาศก์เมตร รั่วไหลลงสู่ลงลำน้ำมูล ส่งผลให้น้ำดิบมีสีดำ ค่าออกซิเจน ความเป็นกรดด่าง ค่าความน้ำไฟฟ้าและอื่นๆ เกินค่ามาตรฐาน 3.วันที่ 21 ส.ค ฝนตกหนักทำให้กำแพงกั้นบ่อน้ำเสียหลังโรงงานไทยมิตซูวา อ.โชคชัย ประกอบกิจการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกชำรุด ทำให้มีน้ำเสียไหลลงลำน้ำมูล