สุพรรณบุรี เป็นเมืองเก่าแก่ เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ มนต์เสน่ห์ของศิลปะ วัฒนธรรม และยังเป็นเมืองแห่งเสียงดนตรี ด้วยท้องทุ่งนา ประเพณีพื้นบ้าน เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการแต่งเพลงของศิลปินหลายคน โดยทั้ง ลูกทุ่ง ลูกกรุง ที่มีชื่อเสียงระดับตำนาน อย่าง สุรพล สมบัติเจริญและพุ่มพวง ดวงจันทร์ ราชินีเพลงลูกทุ่งของไทย ที่นี่จึงเป็นแหล่งบ่มเพาะศิลปินดนตรีที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ โดยเฉพาะในแนวเพลงลูกทุ่ง
การเดินทางมาเยือนสุพรรณในทริปนี้เป็นมากกว่าการท่องเที่ยวทั่วไป เพราะนอกจากจะได้เดินทางไปยังแลนด์มาร์คของจังหวัดแล้ว ยังได้เปิดประสบการณ์สัมผัสเรื่องราวแห่งเสียงดนตรีที่เป็นรากฐานความเข้มแข็งในการอนุรักษ์และสืบสานดนตรีของเมืองสุพรรณบุรี ซึ่งทางองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. ร่วมกับจังหวัดสุพรรณบุรี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรีหน่วยงานและภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนสุพรรณบุรีเมืองสร้างสรรค์ดนตรีขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network : UCCN) แห่งแรกของไทย
เริ่มทริปเสริมศิริมงคล มากราบสักการะหลวงพ่อโต ที่วัดป่าเเลไลย์วรวิหาร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งเปิดให้เข้าสักการะได้แล้ว หลังจากที่มีการบูรณะองค์หลวงพ่อโตไปเมื่อปีที่แล้ว หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ สร้างจากปูนปั้นปิดทอง มีความสูงกว่า 23 เมตร สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตามศิลปะแบบอู่ทองรุ่นที่สอง ซึ่งเป็นผลงานของสกุลช่างอู่ทองแท้ ๆ เดิมทีองค์พระประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง แต่เมื่อพระหัตถ์ขวาเกิดความเสียหาย ช่างในยุคนั้นจึงได้สร้างวิหารครอบองค์พระไว้
วิหารหลังนี้ช่างในอดีตได้ออกแบบอย่างชาญฉลาด โดยผนังด้านหนึ่งถูกสร้างให้ชิดกับพระหัตถ์ขวาและด้านหลังองค์พระ เพื่อเสริมความแข็งแรง ส่วนด้านพระหัตถ์ซ้ายเว้นพื้นที่ว่างไว้ เพื่อเพิ่มความมั่นคงของโครงสร้างวิหาร หลังจากทำการสักการะ ยังสามารถร่วมห่มผ้าหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นพิธีสิริมงคลที่หากใครได้มาเยือนจะต้องห้ามพลาด
ไปต่อที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี สถานที่รวบรวมเรื่องราวที่จะทำให้เราได้รู้จักสุพรรณบุรีมากยิ่งขึ้น ที่นี่เป็นการจัดแสดงนิทรรศการแบบถาวร โดยผสมผสานระหว่างการจัดแสดงโบราณวัตถุและสื่อประเภทต่างๆ อย่างหุ่นจำลอง สื่อวิดีโอ ดนตรี ฯลฯ เพื่อให้การเข้าชมครบรสและได้ความรู้ เริ่มที่ชั้น 1 แบ่งเป็น 3 ห้อง ได้แก่ ห้องเมืองสุพรรณ จัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์สำคัญ อาทิ ศิลาจารึกหลักที่ 1 สมัย พ่อขุนรามคำแหงมหาราช จารึกลานทอง สมัยอยุธยา พบที่วัดส่องคบ จ.ชัยนาทและหนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ ที่กล่าวถึงสุพรรณบุรีในอดีต เป็นต้น และโบราณวัตถุที่พบจากแหล่งโบราณคดีและโบราณสถาน ในจังหวัด อาทิ หม้อสาขา หม้อมีนม และเครื่องปั้นดินเผาในแบบต่างๆ
เดินต่อยังห้องเมืองยุทธหัตถี ที่ได้ทำหุ่นจำลองและการฉายวิดีโอ การทำสงครามยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระมหาอุปราชา ปี 2135 และห้องคนสุพรรณ เป็นห้องที่ทำให้รู้สึกทั้งขนลุกและสัมผัสได้ถึงความมีชีวิตชีวาของเรื่องราวกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในสุพรรณ เพราะห้องนี้จะทำการจำลองบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชาติพันธุ์และทำหุ่นจำลองรูปพรรณสัณฐานด้วย มีทั้งไทยกะเหรี่ยง ไทยญวน ไทยพวน ไทยจีน ไทยเขมร ไทยทรงดำ ลาวครั่ง ไทยเวียง
ขึ้นมาชั้น 2 ประกอบด้วย ห้องบุคคลสำคัญ อาทิ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 ( ปุ่น ปุณณสิริ) พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ) เป็นต้น ส่วนห้องศาสนศิลป์สุพรรณบุรี จัดแสดงหลักฐานทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ มีไฮไลท์ คือ พระพุทธรูปปางนาคปรก ศิลปะลพบุรี สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 18 รูปปั้นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ศิลปะลพบุรี สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 18 และยังมีพระพิมพ์ถ้ำเสือ พระพิมพ์สมัยลพบุรี พระพิมพ์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เดินเชื่อมไปยังห้องเตาเผาบ้านบางปูน แหล่งค้นพบภาชนะดินเผาที่มีลวดลายลงบนภาชนะ ที่ห้องวรรณกรรมเมืองสุพรรณ สัมผัสที่มาของวรรณกรรมยอดฮิตเรื่องขุนช้าง-ขุนแผน และโคลงนิราศสุพรรณ ประพันธ์โดยสุนทรภู่
มาถึงห้องเพลงพื้นบ้านเมืองสุพรรณ ที่จะสะท้อนภาพได้ชัดเจนของการเมืองแห่งดนตรี โดยภายในห้องจะมีการจัดแสดงเรื่องประวัติของศิลปินลูกทุ่งชาวสุพรรณทั้งพุ่มพวง ดวงจันทร์, สายัณห์ สัญญา, ไวพจน์ เพชรสุพรรณ, ศรเพชร ศรสุพรรณ, สุรพล สมบัติเจริญ, ก้าน แก้วสุพรรณ ซึ่งการจัดแสดงแผ่นเสียง เทป ซีดี ของเหล่าศิลปิน และที่ยังมีหูฟังให้ฟังเพลงของศิลปินดื่มด่ำไปเสียงขับร้องอันทรงพลังอีกด้วย ส่วนห้องสุพรรณวันนี้ ได้จัดแสดงการพัฒนาเมืองสุพรรณที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม อาหาร และแหล่งท่องเที่ยวมากมาย
ชวนเข้าวัดอีกแห่งที่ วัดประตูสาร ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้คือ ภาพจิตรกรรมฝาพนังที่ได้บอกเรื่องราวในอดีตของเมืองสุพรรณที่มีความผูกพันธ์ด้านดนตรี โดยเฉพาะปี่พาทย์ ซึ่งในภาพเขียนจะเป็นการตั้งวงล้อมเล่นดนตรีเครื่องสาย และภาพการละเล่นเต้นรำ วาดขึ้นในช่วงปลายรัชกาลที่ 3 ในปี 2397 และยังเป็นจุดกำเนิดของเพลงค้างคาวกินกล้วย ของมนตรี ตราโมท ศิลปินที่เกิดและเติบโตที่นี่
และในย่านวัดประตูสารยังมีวงปี่พาทย์ที่มีชื่อเสียง อย่าง วงประคองศิลป์ สุพรรณบุรี โดยมีผู้ก่อตั้งคือ ครูประคอง วิสุทธิวงษ์ ผู้มีแนวคิดในการสร้างระนาดมอญขึ้นมาใช้สำหรับวงปี่พาทย์มอญ ซึ่งรางระนาดมอญ เป็นรางและต่อหัวและท้าย คล้ายๆกับข้องมอญ ด้านหัวทำเป็นรูปหงส์ ด้านท้ายทำเป็นหางหงส์เหมือนกับเรือสุพรรณหงส์เอาผืนระนาดเอก ผืนระนาดทุมขึงกับราง ในยุคนั้นจะเรียกระนาดแบบนี้ว่าระนาดรางหงส์ แต่ปัจจุบัน ทั้งร่าง 4 รางนี้ไม่ได้อยู่ที่คณะครูประคอง วิสุทธิวงษ์ และยังออกแบบย่อส่วนของฆ้องมอญลงมา โดยรูปแบบเหมือนฆ้องมอญมีหน้าพระ และหางแมงป่องเหมือนกันแต่ย่อความสูงลงมา รูปทรงเหมือนรางระนาดของไทยและมีหน้าพระ หางแมงป่องคล้ายกับของมอญ ปัจจุบันรางระนาดหงสายังใช้บรรเลงขับกล่อมตามงานทั่วไป ซึ่งเป็นสมบัติของปี่พาทย์มอญคณะประคองศิลป์ที่ได้สืบถอดต่อโดยธนู วิสุทธิวงษ์ เจ้าของคณะประคองศิลป์
เช้าอีกวันที่สุพรรณ เรามาตักบาตรนาวาภิกขาจาร ที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วย วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร โดยเป็นการใส่บาตรทางน้ำ มีการจัดขบวนพระสงฆ์ เรือลำแรกจะเป็นเรือสำหรับองค์พระพุทธรูปตามมาด้วยเรือของพระสงฆ์ 8 ลำ บรรยากาศยามการใส่บาตรของที่นี่ถูกขับกล่อมไปด้วยการบรรเลงดนตรีจิตอาสาจังหวะสนุกสนาน มีเสียงขับกลอนประกอบเข้าจังหวะ และการแสดงเพลงพื้นบ้าน ช่วยสร้างสีสันยามเช้าให้สดใสมากๆ
จุดหมายสุดท้ายที่บ้านดนตรี by ครูเอียด มีครูเอียด กณวรรธน์ สุทธิประภา ผู้เป็นเจ้าของและศรัทธาในการต่อยอดดนตรีไทยจากธุรกิจขายเครื่องดนตรีไทยของครอบครัว ทำให้คลุคลีเรียนรู้เรื่องดนตรีไทยจนชำนาญ และเป็นเครือข่ายที่ร่วมผลักดันให้สุพรรณได้เป็นเมืองแห่งดนตรีจากองค์การ ยูเนสโก้อีกด้วย ครูเอียดได้เปิดบ้านให้เป็นแหล่งเรียนรู้ดนตรีไทยสำหรับเด็กและเยาวชนที่สนใจเรียน ซึ่งมีนักเรียนกว่า 80 คน แต่ละคนก็จะถูกบ่มเพาะให้รู้การเล่นดนตรีไทย ส่วนประกอบของดนตรี ที่จะกลายเป็นความสามารถและมีใจในการสืบถอด และที่นี่ยังเปิดเป็นตบสดขนาดเล็กๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ปกครองได้พักผ่อนมีของอร่อยๆทาน โดยจะเปิดทุกวันวันเสาร์ต้นเดือน
มุมมองการมาเยือนสุพรรณบุรีครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเมืองแห่งเสียงดนตรี แต่คือหัวใจของการอนุรักษ์ดนตรีทุกแขนง นับเป็นอีกแห่งที่ควรค่าแก่การมาเรียนรู้ศาสตร์และศิลป์ด้านดนตรี และดื่มด่ำไปกับแหล่งท่องเที่ยวอันงดงาม.