จากกรณีเมื่อช่วงค่ำของวานนี้ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายเป็น ผู้ชายไทยอายุ 25-30 ปี เข้าไปทำทีขอลองแหวนทองคำ ที่ร้านทองภายในห้างตึกคอมพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนจะก่อเหตุวิ่งเอาแหวนทองคำหลบหนีออกไปจากร้าน แล้วใช้วิธีอำพรางตัวเองจากการไล่ล่าจับกุมของตำรวจ ด้วยการถอดเสื้อคลุมออกแล้วขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีต่อ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้รับแจ้งรูปพรรณสันฐานของคนร้าย จึงเรียกขอตรวจค้น แต่คนร้ายกระโดดลงจากรถแล้ววิ่งหนีเข้าป่าละเมาะไป เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังปิดล้อมอยู่หลายชั่วโมง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนปูพรมล่าตัวตลอดทั้งวันทั้งคืน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดพ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จิตต์สุนทร สว.สส.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัวนายบุญ อายุ 29 ปี ได้พร้อมของกลางบางอย่าง ที่คนร้ายนำเงินที่จำนำทองได้ มาซื้อไว้ใช้ส่วนตัว โดยสามารถจับกุมได้ที่ซอยกรมที่ดิน 2 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง
โดยพ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่าหลังเกิดเหตุได้นำกำลังออกไล่ล่าติดตามจากกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อม จนได้เบาะแสว่าคนร้ายหนีไปกบดานอยู่ในห้องพักรายวันในพื้นที่ เขาไม้แก้ว แต่ด้วยคนร้ายรู้ว่าเจ้าหน้าที่ตามล่าตัวอยู่ จึงพักอยู่ได้ไม่นานก็จะเปลี่ยนที่พัก กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ภายในซอยกรมที่ดิน 2 คือจุดที่คนร้ายกระโดดลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนี ได้อย่างง่ายได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่นำกำลังไปดักซุ่มรออยู่ก่อนแล้ว เพราะเชื่อว่าคนร้ายจะต้องกลับมาหาแฟนสาว เมื่อเห็นคนร้ายจึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที
ขณะที่นายบุญ ผู้ก่อเหตุจนมุมต่อหลักฐาน จึงรับสารภาพจนสิ้นว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยก่อนหน้านี้ทำงานเป็น รปภ.ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา แต่ก็ถูกไล่ออก เมื่อไม่มีเงินจึงเดินระหกระเหิน มานอนหลับอยู่ริมถนนข้างห้างที่เกิดเหตุ สังเกตเห็นว่าปลอดคน และร้านทองมีแต่พนักงานผู้หญิง จึงเดินเข้าไปทำทีขอเลือกแหวนทองหนัก 1 บาท เมื่อได้ตามขนาดและน้ำหนักที่ต้องการ ก็เอ่ยปากบอกพนักงานว่า ไปแล้วนะ ก่อนจะออกวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต แล้วถอดเสื้อคลุมออกหวังตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แต่เหมือนลางไม่ดีมาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเรียกขอตรวจค้น จึงรีบกระโดดลงรถแล้ววิ่งหนีเข้าป่า เมื่อรอดออกมาได้ก็นำแหวนทองคำที่ได้มาไปถอดขายที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าย่านพัทยา แล้วหนีไปหลบที่ห้องพักรายวันพื้นที่เข้าไม้แก้ว แต่ปรากฏว่าชาวบ้านดูข่าวแล้วจำรูปพรรณสันฐานได้ว่าคล้ายกับตนเอง ประกอบกับกลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจพัทยาตามจับ เนื่องจากเคยถูกตามจับมาแล้ว จึงตัดสินใจย้ายที่พัก ก่อนจะมาถูกจะจับกุมได้ขณะที่จะไปหาแฟนสาวส่วนเงินที่ขายแหวนทองได้นั้น นำไปซื้อยาเสพติด เล่นเกมการพนันออนไลน์ ซื้อยาเสพติดเสพ และซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ให้กับแฟนสาว เพราะเคยเอาของแฟนไปจำนำแล้วเล่นการพนันเสีย
ด้านพ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา หลังสอบสวน จนคนร้ายยอมรับสารภาพ ก็เตือนสติให้รับโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย แล้วกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในภายหลัง ทั้งเตือนผู้ที่คิดจะทำผิดว่าหากก่อเหตุในพื้นที่เมืองพัทยา หนียังไงก็ไม่รอดการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจพัทยาอย่างแน่นอน พร้อมฝากถึงผู้ประกอบการที่รับซื้อ หรือรับจำนำ ทรัพย์สิน ที่คนร้ายนำไปขาย หากไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องมีความผิดด้วย ซึ่งเคสนี้เจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้เพียงไม่ถึง 24 ชม. แต่หากได้รับความร่วมมือมากกว่านี้ ก็จะทำงานได้เร็วขึ้นด้วย