ตกขาว
GH News December 12, 2024 12:10 PM

ตกขาว 

วัยเจริญพันธุ์เป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งจะมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละรอบเดือน ผู้หญิงบางรายอาจมี อาการตกขาว ของเหลวที่ถูกขับออกจากช่องคลอด ซึ่งโดยปกติ ตกขาว จะมีสีขาวขุ่นหรือสีใสและไม่มีกลิ่น

ตกขาว คืออะไร

ตกขาว สารคัดหลั่งที่อยู่ภายในร่างกายของผู้หญิงที่ถูกขับออกจากช่องคลอด เกิดขึ้นได้ในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแตกต่างกันไปตามรอบเดือน จะมีหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อและการระคายเคืองต่าง ๆ เมื่อฮอร์โมนในร่างกายส่งผลต่อความสม่ำเสมอของตกขาว ทำให้ปริมาณตกขาวแตกต่างออกไปตามช่วงเวลา สามารถแบ่งลักษณะของตกขาวได้ดังนี้

ช่วงวันที่ 1-5 ของรอบเดือน จะเป็นช่วงที่มีรอบเดือน

ช่วงวันที่ 6-14 ของรอบเดือน ตกขาวจะขุ่น มีสีขาว เหลือง ส่วนใหญ่ตกขาวมักจะน้อยกว่าช่วงปกติ

ช่วงวันที่ 14-25 ของรอบเดือน จะเป็นเวลาก่อนวันไข่ตก ทำให้ตกขาวอาจมีลักษณะเป็นเมือกคล้ายไข่ขาว และหลังจากผ่านช่วงที่ไข่ตกไปเรียบร้อยแล้วตกขาวจะกลับมามีสีขุ่นอีกครั้ง

ช่วงวันที่ 25-28 ของรอบเดือน เป็นช่วงก่อนที่จะมีประจำเดือน ตกขาวจะน้อยลงมากจนหายไป

สีของตกขาว บอกอะไรได้บ้าง

ตกขาว โดยปกติทั่วไปแล้วจะมีสีขาวหรือสีใส หากตกขาวมีสีที่เปลี่ยนไปอาจบ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่างได้ ซึ่งสีตกขาวสามารถบอกความผิดปกติของร่างกายได้ ดังนี้

ตกขาวสีเทา 

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจากการมีเพศสัมพันธ์หรือการใช้ยาปฏิชีวนะมาเป็นเวลานาน ส่วนใหญ่ตกขาวสีนี้มักมาพร้อมกับกลิ่นอับหรือคาว

ตกขาวเหลืองอ่อนขุ่นผิดปกติ 

ผู้ป่วยจะมีอาการคันบริเวณอวัยวะเพศ ร่วมกับปัสสาวะขัด แสบช่องคลอด ซึ่งตกขาวสีนี้เกิดจากเชื้อราในช่องคลอด

ตกขาวสีเหลืองเข้ม 

เป็นตกขาวที่มาพร้อมกลิ่นคาว ผู้ป่วยจะมีอาการคัน ปัสสาวะขัด ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น โรคหนองใน

ตกขาวมีเลือดปนหรือสีน้ำตาล 

มักจะเป็นหลังจากการมีประจำเดือน เกิดจากการติดเชื้อที่ปากมดลูกหรือเลือดออกจากการตกไข่ อาจมีกลิ่นที่ไม่ดีร่วมด้วย

ตกขาวมีฟอง 

ผู้ป่วยจะมีอาการระคายเคือง คัน แสบช่องคลอด เกิดจากการติดเชื้อทริโคโมแนสในช่องคลอด ซึ่งติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์

ตกขาวสีชมพูจาง ๆ 

พบในผู้ป่วยที่เพิ่งทำการคลอดลูก เกิดได้จากการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก

อาการตกขาวผิดปกติที่ต้องไปพบแพทย์

-ตกขาวมีฟองคล้ายแป้งเปียก

-เลือดออกกะปริดกะปรอยช่วงไม่มีประจำเดือน

-ตกขาวมีกลิ่นรุนแรง

-เจ็บ คัน แสบร้อน บริเวณช่องคลอดหรืออวัยวะเพศ

-สีตกขาวเริ่มออกเขียวหรือน้ำตาล

สาเหตุที่ตกขาวผิดปกติ

-เชื้อราจากการใส่ชุดชั้นในที่อับชื้น

-เลือดออกจากโพรงมดลูกหรือปากมดลูกผิดปกติ

-มีแผลติดเชื้อบริเวณช่องคลอด

-ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน

-ตั้งครรภ์

วิธีป้องกันตกขาวผิดปกติ

-รักษาความสะอาดบริเวณช่องคลอดและอวัยวะเพศอย่างสม่ำเสมอ

-ล้างช่องคลอดด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ ไม่ให้เกิดอาการอักเสบหรือระคายเคือง

-ไม่ปล่อยให้บริเวณช่องคลอดอับชื้น

-หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด

-สวมชุดชั้นในที่สะอาด ระบายอากาศได้ดี ไม่อึดอัด

-ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์

-เมื่อมีตกขาวผิดปกติควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ

วิธีการรักษาอาการตกขาว

วิธีการรักษาแพทย์จะพิจารณาจากสาเหตุที่เกิดขึ้นจากการตรวจร่างกายและวินิจฉัย ดังนี้

-หากผู้ป่วยตกขาวผิดปกติจากเชื้อราในช่องคลอดแพทย์จะดำเนินการรักษาด้วยยาเหน็บร่วมกับยาทาภายนอก

-ตกขาวผิดปกติจากการติดเชื้อแบคทีเรียแพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อรับประทาน 1-7 วัน

-หากมีการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ลุกลามถึงมดลูกและรังไข่ ต้องรักษาด้วยการฉีดยาฆ่าเชื้อ 

รศ.พญ.อรวี ฉินทกานันท์

สาขาวิชาเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม

ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

© Copyright @2024 LIDEA. All Rights Reserved.