ปักกิ่ง, 18 ธ.ค. (ซินหัว) – เมื่อฤดูหนาวมาเยือน นักท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาว (long-stay tourists) จำนวนมาก ต่างมุ่งหน้าเดินทางสู่ภาคใต้ของจีน เช่น อวิ๋นหนาน (ยูนนาน) กว่างซี และไห่หนาน (ไหหลำ) เพื่อหนีอากาศหนาวเย็น คล้ายกับการเดินทางของ “นกอพยพ” การท่องเที่ยวประเภทนี้ ไม่เพียงช่วยฟื้นฟูตลาดท่องเที่ยวนอกฤดูกาล แต่ยังสนับสนุนการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในท้องถิ่นอีกด้วย
การท่องเที่ยวแบบ “โลคอล” มาแรง
รายงานด้านการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาวของสถาบันการท่องเที่ยวของจีน (China Tourism Academy) ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เผยว่าตลาดการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวสูงวัย (senior travel) และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (wellness travel) กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพักผ่อนช่วงฤดูหนาว-ฤดูร้อน และการพักผ่อนริมทะเลที่ยังคงได้รับความนิยม และการท่องเที่ยวแบบ “นกอพยพ” เช่นนี้กำลังกลายเป็นกระแสหลักของตลาดการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาว
ข้อมูลชี้ว่า ร้อยละ 90 ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้พำนักนานไม่เกิน 6 เดือน โดยร้อยละ 63.8 พำนักอยู่นาน 1-3 เดือน ซึ่งช่วยให้พวกเขาสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นอย่างแท้จริง ตัวอย่างเช่น จางหัวและภรรยาซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่ง ได้เดินทางไปยังเมืองไหโข่ว มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) พวกเขาพักอาศัยในอพาร์ทเมนต์ที่เช่าไว้และใช้ชีวิตอย่างคนท้องถิ่น โดยทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นหมากรุกกับเพื่อนๆ ชงชากาแฟในคาเฟ่ และออกไปเต้นแอโรบิกที่ลานจัตุรัสสาธารณะ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อายุน้อย การได้สัมผัส “ประสบการณ์ใหม่” ถือเป็นสิ่งสำคัญในการท่องเที่ยวในเมืองใหม่ๆ เช่น นักท่องเที่ยววัยรุ่นที่เดินทางไปยังเมืองเหยียนจี๋ มณฑลจี๋หลิน เพื่อดื่มกาแฟ และตกหลงรักเมืองนี้จาก “วิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์” หลังได้สัมผัสกับวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ อาหารและเทศกาลต่างๆ ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน
เดือนมีนาคมที่ผ่านมา มณฑลยูนนานได้เปิดตัวแคมเปญ “วิถีชีวิตแบบยูนนาน (A Lifestyle Called Yunnan)” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ของภาคการท่องเที่ยวของยูนนาน ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น หมู่บ้านถู่กวาชงในยูนนาน ที่ฟื้นฟูทรัพยากรจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวโฮมสเตย์ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และเบเกอรี่ที่ผสมผสานเอกลักษณ์ท้องถิ่น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย
จ้าวกั๋วเหลียง ผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวมณฑลยูนนาน กล่าวว่า การเปลี่ยนจาก “การท่องเที่ยว” ไปสู่ “การท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาว” ถือเป็นการพลิกโฉมภาคการท่องเที่ยวของจีน และยูนนานตั้งเป้าที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาวในย่านชนบทกว่า 3,000 แห่ง ภายในปี 2027
จับทิศทางนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่
รายงานยังระบุถึง “ชนเร่ร่อนดิจิทัล” (digital nomads) หรือ นักเดินทางดิจิทัล ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่สามารถทำงานไปพร้อมกับการเดินทาง โดยอาศัยโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารและเศรษฐกิจดิจิทัลในปัจจุบัน เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อำเภออี มณฑลอันฮุย ได้เปิดตัว “ชุมชนชนเร่ร่อนดิจิทัลหวงซาน (Huangshan NCC Digital Nomads Community)” พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวจากเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้น ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโปรแกรม การออกแบบสร้างสรรค์ และสื่อออนไลน์ พวกเขาเหล่านี้ถูกดึงดูดด้วยธรรมชาติที่สวยงามของยูนนาน ขณะเดียวกัน หลังลงหลักปักฐานพำนักระยะยาวที่นี่พวกเขายังมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการพัฒนาโครงการต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การอนุรักษ์หมู่บ้านเก่าแก่และแหล่งประวัติศาสตร์
ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ยังมีการจัดประชุมนักเดินทางดิจิทัลครั้งที่ 2 เพื่อส่งเสริมการผสมผสาน เทคโนโลยี ความเป็นผู้นำของคนวัยหนุ่มสาว การฟื้นฟูชนบท และการร่วมสร้างสรรค์ศิลปะ เพื่อผสานวิถีชีวิตของชนเร่ร่อนดิจิทัลเข้ากับการพัฒนาชนบท การมีส่วนร่วมของของนักเดินทางกลุ่มนี้ จึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ดิจิทัล และการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น
(เรียบเรียงโดย Niu Huizhe, Xinhua Silk Road, https://en.imsilkroad.com/p/343541.html)