วันที่ 21 ธ.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" ระบุว่า...
รัฐบาลมีรอยร้าว !!!
ผลการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาพ.ร.บ.ประชามติ ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการร่วมสส.-สว. ซึ่งมติของวิปรัฐบาลให้โหวตสนับสนุนการทำประชามติชั้นเดียว แต่พรรคภูมิใจไทยกลับโหวตสวนมติวิปรัฐบาล จึงทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องความเป็นเอกภาพ และความขัดแย้งเกิดขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างกว้างขวาง
มีผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องนี้กับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าจำเป็นต้องคุยกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ได้รับคำตอบว่า ไม่ต้อง ให้เป็นไปตามกระบวนการสภาฯ เพราะบางที สส.พรรคเดียวกันก็คิดไม่เหมือนกัน ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรการบริหารงานเราร่วมมือกันอยู่แล้ว เป็นการตอบคำถามแบบสไตล์เดิมๆ คือลอยตัว ตีกรรเชียง หนีการตอบคำถาม อยู่เป็นประจำ
ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ผลการลงมติร่างพ.ร.บ.ประชามติ คืออีกรูปธรรมหนึ่งของการเมือง 3 ก๊ก พรรคร่วมรัฐบาลสำคัญโหวตไปอีกทาง ซึ่งตรงกับส.ว.จากกติกาของก๊กอนุรักษ์นิยม เป็นการพาดพิงไปถึงพรรคภูมิใจไทยโดยตรง
สำหรับเพจของพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความว่า อย่าไปหลงคารม “อีแอบ” ที่ล็อกโหวตสองชั้น มิเช่นนั้น ชาติหน้าก็ไม่ได้แก้ อดทนรอเพื่อให้คนไทยใช้สิทธิประชาธิปไตยสร้างอนาคตที่ดีกว่า เป็นการหยิบยกคำว่าอีแอบ ที่นายทักษิณ ชินวัตร เคยพูดไว้ในการสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่หัวหินว่า ไม่ชอบพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นอีแอบ การที่พรรคเพื่อไทยหยิบยกเอาคำว่าอีแอบขึ้นมาโพสต์ เป็นการยืนยันคำพูดของนายทักษิณ มาพาดพิงถึงพรรคภูมิใจไทยแบบเต็มๆ
ต่อมานายอนุทิน ได้ตอบคำถามที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาเป็นอีแอบนั้นว่า “คงอารมณ์ค้างในเรื่องอื่นๆ คนที่เหน็บแนม เจอกันก็กอดกันทุกที ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ทุกคนก็ต้องยอมรับการตัดสินใจ ย้ำพรรคภูมิใจไทยไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์พรรคอื่น” ซึ่งเป็นการเหน็บแนมกลับไปยังพรรคเพื่อไทย
จากท่าทีของแกนนำพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย จะเห็นได้ชัดว่า มีร่องรอยของความขัดแย้ง และความไม่พอใจต่อกัน เพียงแต่พยายามปกปิดไม่ให้เกิดภาพความขัดแย้งต่อสาธารณชน และเรื่องนี้ แม้ว่านางสาวแพทองธาร จะออกมาปฏิเสธว่า ไม่เป็นไรก็จริงอยู่ แต่นายทักษิณคือนายกรัฐมนตรีตัวจริง คงไม่ยอมให้พรรคภูมิใจไทย แสดงบทอีแอบอยู่บ่อยๆเช่นนี้ ซึ่งจะเกิดรอยร้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอาจจะขยายผลถึงขั้นแตกหักก็ได้
แม้ว่าจะพยายามปกปิดอย่างไร ก็ไม่สามารถปกปิดรอยร้าวนี้ได้ เหมือนกับคำสุภาษิตที่กล่าวว่า “อันถ้วยโถโอร้าว เอากาวติด ถึงสนิทก็ยังเห็นว่าเป็นแผล”