เปิดยุทธการ “ดับไฟ ปิดเสียง” บุกจับสถานบันเทิงเปิดยันหว่างถึง 6โมงเช้า พบสารเสพติดถูกทิ้งเกลื่อนพื้น
เมื่อเวลา 04.13 น.ของวันที่ 21 ธันวาคม 2567 ภายใต้การอำนวยการของ นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครและนายบรรพต จันทวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน ได้สั่งการให้ชุดปฎิบัติการฝ่ายปกครองอำเภอกระทุ่มแบน นำโดย นายณัฐพล บุญทวี ปลัดอาวุโส, เรือตรี นิติพัฒน์ ซื่อดี ปลัดอำเภอ,ว่าที่ร้อยตรี พรชัย วนศาสตร์ ปลัดอำเภอ ,นายนิทัศน์ ลิ้มศิริวัฒน์ ปลัดอำเภอ,นายกิตติวุฒิ ฉัตรวคุณ ปลัดอำเภอ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน นำโดย พ.ต.อ.สร ซื่อตรงพานิช ผกก.สภ.กระทุ่มแบน เข้าตรวจสอบ เป็นสถานบันเทิงร้านเหล้ากึ่งผับ
สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ร้านดังกล่าวมีการเปิดให้บริการเกินเวลายันเช้า จนถึงตี 5 และ 6 โมงเช้าของทุกวัน อีกทั้งยังเปิดเพลงส่งเสียงดัง รบกวนพี่น้องประชาชนที่กำลังหลับนอนด้วย
ทั้งนี้ก่อนที่ชุดปฏิบัติการจะเข้าไปด้านในนั้น ได้มีการวางแผนส่งสายลับเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนในเวลาประมาณ 03.15 น. ซึ่งก็พบว่าร้านดังกล่าวยังคงเปิดให้บริการจำหน่ายสุราและการเปิดเพลงอย่างสนุกสนานโดยมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากใช้บริการอยู่ภายในร้านดื่มกินและเต้นกันอย่างเมามัน กระทั่งถึงเวลา 04.13 น.ของวันเดียวกัน
เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจึงได้เปิดปฎิบัติการบุกเข้าไปภายในร้าน พบนายกวี แสดงตนเป็นผู้ดูแลร้าน จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจึงได้ดำเนินการตรวจตรวจค้นภายในร้านและตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการภายในร้านโดยผลการตรวจค้นภายในร้าน พบยาเสพติดประเภทวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (ยาอี) ถูกทิ้งอยู่ที่พื้นในบริเวณร้าน และจากการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดนักท่องเที่ยวพบว่า มีนักท่องเที่ยวที่มีสารเสพติดในปัสสาวะ เป็นสารเสพติดประเภทเคตามีน ดังนั้น จึงได้นำนักท่องเที่ยวที่มีสารเสพติดดังกล่าวมาค้นตัวก็พบของกลางเป็น เคตามีน น้ำหนักรวมถุง 0.59 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพ ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังข้างขวา โดยนักท่องเที่ยวได้ให้การว่า ตนได้นำสารเสพติดมาเสพภายในร้านจริง จึงถูกนำตัวไปทำทะเบียนประวัติพร้อมรับทราบข้อกล่าวหา นำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดที่โรงพยาบาลต่อไป
ด้านของนายกวี ผู้ดูแลร้าน ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า จัดตั้งสถานบริการโดยไม่รับอนุญาต และ จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด พร้อมเสนอสั่งปิดร้านตามขัันตอนของกฎหมายต่อไป