วันที่ 21 ธ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีคนหาของป่า พบกะโหลกศีรษะมนุษย์ และชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์กระจัดกระจายทั่วบริเวณป่าชุมชนเชิงเขาพนมรุ้ง เขตพื้นที่ หมู่ 2 ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ เขตรอยต่อ ต.ประทัดบุ อ.ประโคนชัย ชาวบ้านไม่มีใครรู้จักและคาดว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม ก่อนตำรวจ
ล่าสุด ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.วิศิษฏ์ บัวสง่าวงศ์ ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ ว่าได้มี น.ส.แคล้ว ศรีถาวร ,น.ส.ปนัสยา ,นางนาฏยา ได้มาแสดงตัวเพื่อดูที่เกิดเหตุ และได้ยืนยันจาก เสื้อผ้า ยางรัดข้อมือสีดำ รวมถึงมัดฟืนที่หล่นอยู่ เป็นของนายเปล้า อายุประมาณ 72 ปี อาศัยอยู่ที่บ้าน ม.9 ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์
เบื้องต้นญาติแจ้งว่าเป็นบุคคลสติไม่ดี ชอบหาฟืน เดินเตล็ดเตร่ไปเรื่อย มักหายออกจากบ้านไปบ่อยครั้ง ล่าสุดญาติพบครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อนแต่ญาติไม่ได้แจ้งหาย เพราะทุกครั้งที่ได้หายไป จะมีผู้นำส่งกลับบ้านเป็นประจำ จึงไม่ได้แจ้งบุคคลสูญหาย ซึ่งญาติเชื่อว่าโครงกระดูกดังกล่าวเป็น นายเปล้า เจริญศรี ซึ่งเป็นญาติของตนจริง ส่วนสาเหตุการตายญาติไม่ได้ติดใจแต่อย่างใด พนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการเก็บ DNA ของญาติเพื่อนำตรวจเปรียบเทียบยืนยันบุคคลต่อไป
ด้าน นางยา อายุ 90 บ้านม.9 ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เพื่อนบ้านเล่าว่า ก่อนหน้านั้นผู้ตายเคยเป็นคนขับรถบัสโดยสารประจำทาง แต่ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นมากลายเป็นคนเสียสติ ชอบเดินออกจากบ้าน เพื่อไปหาเก็บผักและฟืนเอามาเก็บไว้ที่บ้านประจำ เอกลักษณ์ประจำตัวคือยางรัดข้อมือสีดำ จากที่พบมีครบเชื่อได้ว่าโครงกระดูกนี้เป็นของนายเปล้า อย่างแน่นอน
เช่นเดียวกับ ด.ญ.จันทรกานต์ อายุ 14 ปี หลานผู้เสียชีวิต บอกว่าปกติตาจะออกจากบ้านเป็นประจำ แต่ไปแล้วหลับมาบ้างไม่กลับบ้าง และล่าสุดประมาณกว่า 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเอาข้าวไปให้แล้วไม่เห็น คิดว่าเดี๋ยวคงกลับมาสุดท้ายมีคนมาให้ไปดูเห็นแล้วรู้เลยว่าเป็นตา
ขณะที่นางแคล้ว อายุ 80 ปี บ้าน 16 ม.9 ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ. บุรีรัมย์ น้องสาวผู้ตายเล่าว่าเห็นซากทั้งยางรัดข้อมือและเสื้อผ้ารู้ทันทีว่าเป็นพี่ชายตัวเอง โชคดีตำรวจหาเจอมิเช่นนั้นญาติคงไม่รู้อย่างแน่นอนว่าหายไปไหน
ส่วน พ.ต.อ.วิศิษฏ์ บัวสง่าวงศ์ ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า จากที่ญาติยืนยันทางตำรวจได้ลงบันทึกเอาไว้แล้ว แต่จะต้องส่งกระดูกเพื่อไปตรวจ DNA ซ้ำอีกครั้งว่าตรงกับน้องสาวหรือไม่เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้