มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำให้บรรยากาศในห้องแต่งตัวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปกคลุมไปด้วยความตึงเครียด เมื่อตัดสินใจออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองว่า พร้อมจะโบกมืออำลาถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังโดน รูเบน อโมริม กุนซือคนใหม่ของผีแดง ตัดชื่อออกจากทีมในเกมบุกชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี

                ปากของ แรชฟอร์ด พร่ำบอกว่า รัก แมนฯ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ และจะไม่มีการให้ร้ายสโมสรแน่นอน หากมีอันต้องสวมคอนเวิร์สแยกทางกันในอนาคตอันใกล้

                ทว่าจะด้วยเจตนาหรือไม่ ไม่มีใครรู้ได้นอกจากตัวของ แรชฟอร์ด เอง การให้สัมภาษณ์ของเขาทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรองหากต้องมีการเปิดโต๊ะเจรจากับสโมสรไหนก็ตามที่อยากได้ “แรชชี” ไปร่วมทีมเพราะตัวนักเตะแสดงให้เห็นแล้วว่า “กระสันจะย้ายจนตัวสั่น”

                อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเพียงแค่ แรชฟอร์ด ที่ถูก อโมริม ตัดชื่อออกจากเกมเยือน “เรือใบสีฟ้า” ด้วยเหตุผลที่ว่า ทำผลงานในการฝึกซ้อมได้ไม่น่าประทับใจ แต่ยังมี อเลฮานโดร การ์นาโช ด้วยอีกคน

                กระนั้นกลับกลายเป็น การ์นา ที่อายุอ่อนกว่า แรชฟอร์ด ถึง 7 ปี ที่ดูจะมีวุฒิภาวะ หรือ ความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า โดยเลือกที่จะแก้ปัญหานี้ด้วยการมุ่งมั่นทำผลงานในการฝึกซ้อมจนกระทั่ง โค้ชพี่เจ๋ง ใส่ชื่อกลับมาอยู่ในทีมอีกครั้งในเกม คาราบาว คัพ นัดบุกแพ้ สเปอร์ส

                ส่วน อโมริม หลังได้เห็นบทสัมภาษณ์ของ แรชฟอร์ด ก็ดูจะเสียความรู้สึกมิใช่เบา พร้อมกล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ถ้าเป็นตัวเขา เขาจะเลือกเดินเข้าไปคุยกับผู้จัดการทีมมากกว่าที่จะไปคุยกับนักข่าวแบบนั้น

                ปัจจุบัน แรชฟอร์ด อายุ 27 ปี แล้ว ซึ่งถือว่า เป็นช่วงพีคที่สุดสำหรับนักเตะทุกคน แต่นอกจากจะทำผลงานได้ไม่คุ้มค่าจ้างระดับ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ตลอดช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาแล้ว ลูกหม้อของอสูรแดงรายนี้ยังขยันสร้างปัญหาทั้งใน และนอกสนามอีกต่างหาก

                เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ มันจึงดูเหมือนว่า การแยกทางกันน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทั้ง 2 ฝ่ายเหมือนที่ แกรี เนวิลล์ ตำนานแข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด เคยหล่นความเห็นเอาไว้ ถึงแม้ว่า ใจจริงแล้วจะไม่มีใครใน “โรงละครแห่งความฝัน” อยากจะเห็นนักเตะพรสวรรค์ที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่ 8 ขวบอย่าง แรชฟอร์ด โบกมืออำลาสโมสรไปก็ตาม.

แท ยอน