ชป.ย้ำบริหารจัดการน้ำสอดคล้องสถานการณ์ เน้นน้ำอุปโภคบริโภคต้องเพียงพอตลอดปี
วันที่ 23 ธ.ค.67 ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (Swoc) อาคาร 99 ปี หม่อมหลวงชูชาติ กำกู กรมชลประทาน ถนนสามเสน ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา พร้อมผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และและแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่
ปัจจุบัน (23 ธ.ค.67) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 61,456 ล้าน ลบ.ม. (81% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เป็นน้ำใช้การได้ 37,514 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 20,747 ล้าน ลบ.ม. (83% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) ปริมาณน้ำใช้การได้ 14,051 ล้าน ลบ.ม. จนถึงขณะนี้ทั้งประเทศมีการจัดสรรน้ำไปแล้ว 5,725 ล้าน ลบ.ม. (20% จากแผนฯ) เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยาจัดสรรน้ำไปแล้ว 2,047 ล้าน ลบ.ม. (23% จากแผนฯ) ด้านผลการเพาะปลูกพืชทั้งประเทศมีการเพาะปลูกข้าวนาปรังไปแล้วรวม 4.74 ล้านไร่ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการเพาะปลูกข้าวนาปรังแล้ว 3.77 ล้านไร่
ทั้งนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในช่วงการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง จึงได้กำชับไปยังโครงการชลประทาน ให้วางแผนจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่มีการเพาะปลูกข้าวนาปรังเป็นจำนวนมาก ให้พิจารณาปรับแผนการส่งน้ำให้เหมาะสมกับพื้นที่ พร้อมควบคุมการใช้น้ำให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด เน้นน้ำอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการเฝ้าระวังรักษาคุณภาพน้ำ มีการควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด
ส่วนในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันสถานการณ์ฝนเริ่มลดลงแล้ว ส่งผลให้ระดับน้ำที่ท่วมขังในหลายพื้นที่กลับเข้าสู่ระดับตลิ่ง กรมชลประทาน ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่น เร่งสูบน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำต่างๆ ลงสู่ลำน้ำอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า ภาคใต้ตอนล่าง จะมีปริมาณฝนตกเล็กน้อยและฝนตกหนักในบางพื้นที่ ช่วงวันที่ 24 - 28 ธันวาคมจึงยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป